รวบแล้ว!!! หนุ่มเดนคุกเพิ่งพ้นโทษ แต่ไม่สำนึกผิดก่อเหตุซ้ำอีก

รวบแล้ว!!!หนุ่มเดนคุกเพิ่งพ้นโทษ แต่ไม่สำนึกผิด ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์และวิ่งราว จนสุดท้ายโดนจับได้อีกตามเคย

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 13 ก.ค.60 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ. จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดี “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน” จำนวน 1 คน ทราบชื่อคือนายวิเชษฐ์ หรือเอก ทองอุดม อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 767 หมู่ 1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมของกลางรถ จ.ย.ย.ฮอนด้า ดรีมสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชุดเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ หมวกกันน็อค ตู้รับบริจาคเงินทำบุญวัด และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
โดยทาง พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก. เปิดเผยว่า การจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก ทาง จนท.ตร.ได้รับแจ้งจาก ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปีนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อกสีดำ ขับขี่รถ จ.ย.ย.ฮอนด้าดรีมสีดำ จับมาจอด แล้วลงมาก่อเหตุกระชากเอาโทรศัพท์มือถือไอโมบายสีดำ รุ่น I-STYLE ก่อนหลบหนีไป ขณะตนกำลังยืนรอผู้ปกครองมารับที่บริเวณข้างโรงเรียน ริมถนนราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งขึ้นรถ จ.ย.ย.แล้วขี่หลบหนีไป โดยระหว่างเกิดเหตุเด็กชายผู้เคราะห์ร้ายก็พยายามร้องไห้ วิ่งตามคนร้ายแต่ก้ไม่ทันการ จนพลเมืองดีต้องแจ้ง จนท.ตร.มาช่วยเหลือ

โดยในเวลาต่อมา หลังจากที่ทาง จนท.ตร.ได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้เดินทางเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบว่าที่จุดดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบก็พบว่ากล้องดังกล่าว สามารถบันทึกเหตุกาณณ์และรูปพรรณของคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน ทาง จนท.จึงได้ทำการสืบสวนติดตามเบาะแส และตรวจสอบประวัติอาชญกรรมก็พบว่าคนร้ายคือ นายวิเชษฐ์ อดีตผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์หลายพื้นที่ ที่พึ่งพ้นโทษออกมาได้เมื่อปลายปี 58 ทาง จนท. จึงออกติดตามล่าตัวจนสามารถจับกุมตัวได้ ขณะกำลังขับขี่รถที่ใช้ก่อเหตุได้ที่บริเวณตลาดหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ขณะเดียวกัน จากการสอบสวน นายวิเชษฐ์ ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุรายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่าเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน และหลังจากออกมาก็ไม่มีงานทำ และก็พึ่งกลับมาที่ จ.เชียงใหม่ แต่เนื่องจากที่ตนไม่มีเงินใช้ก็ได้อาศัยตระเวนขอเงินชาวบ้านไปเรื่อยเพื่อประทังชีวิต นอกจากนี้ยังเคยก่อเหตุที่ร้านขายน้ำดื่ม ย่านตลาดทิพย์เนตร ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยได้ทำการขโมยรถ จ.ย.ย.ของเจ้าของร้านหลบหนีมาแล้ว ใช้รถคันดังกล่าวตะเวนก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งของชาวบ้าน เด็ก คนแก่ รวมถึงบุกเข้าไปตามวัดต่างๆ และทุบตู้บริจาคเอาเงินมาไว้กินไว้ใช้ โดยทำเรื่อยมาจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว หลังการสอบสวนทาง จนท.จึงได้ควบคุมตัวดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป