เตรียมมาตรการเข้มจัดการผู้ขายอาหาร นกพิราบ นับวันยิ่งเพิ่มจำนวน ! ปัญหาฝูงนกพิราบลานท่าแพเริ่มส่งผลกระทบ หลังนักท่องเที่ยวเข้าใจผิดกลายเป็นกิจกรรมปลูกฝังมาเชียงใหม่ต้องแวะให้อาหารนก จนชาวบ้านได้ความเดือดร้อนหนักจากนกที่ขี้เรี่ยราด ทั้งกลิ่นเหม็นและความสะอาด หวั่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค ด้านปศุสัตว์เตือนเสี่ยงท้องร่วง-อาหารเป็นพิษ ควรเลี่ยงสัมผัสและทำความสะอาดทุกครั้ง ขณะที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ เตรียมออกมาตรการเข้ม จัดระเบียบพ่อค้า-แม่ค้า มักง่าย แอบเร่ขายอาหารนก
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของนักท่องเที่ยวที่ได้มีการให้อาหารนกพิราบที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ ซึ่งอยู่ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งขณะนี้จากการกระทำดังกล่าวส่งผลให้มีนกพิราบจำนวนนับพันตัว ได้อาศัยอยู่เต็มลานกว้างของข่วงประตูท่าแพ นอกจากนี้ยังได้มี บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า ฉวยโอกาส จากจุดนี้นำอาหารนก และอาหารปลา มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากในราคาถุงละ 20 บาท เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวนำอาหารที่ขายให้ ไปโยนให้พิราบ แม้ว่าจะมีการติดป้ายประกาศห้ามให้อาหารนกพิราบดังกล่าว แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างเมินเฉยและยังคงมีการให้อาหารนก เพื่อหวังเซลฟี่กับนกพิราบ จนทำให้มีจำนวนนกพิราบเพิ่มปริมาณมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งอาหารชั้นดี
ขณะเดียวกัน จาการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า แต่เดิมนกพิราบบริเวณข่วงประตูท่าแพนั้น ยังคงมีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นนกที่อพยพหนีหนาวเข้ามาเพื่อหาอาหาร แต่ภายหลังมีคนนำอาหารนกมาขายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ทำให้นกขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณมากขึ้น จนกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยม ส่งผลให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของนกพิราบ ที่แพร่ขยายพันธุ์จนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดผลกระทบจากขี้และสิ่งปฏิกูลต่างๆ จากนกพิราบ ซึ่งทำให้เกิดความสกปรกและกลิ่นเหม็น รวมทั้งเป็นห่วงว่าจะเป็นแหล่งเชื้อโรคต่างๆด้วย ที่อาจจะทำให้ผู้คนเจ็บป่วย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหา
ทางด้าน นายทรงศักดิ์ ศรีอำพร ปศุสัตว์อำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับปัญหานกพิราบที่บริเวณประตูท่าแพนั้น ทางปศุสัตว์อำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเก็บตัวอย่างมูล ขน และน้ำลายของนกมาทำการตรวจสอบหาเชื้อไข้หวัดนก นอกจากนี้ยังได้มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดยังบริเวณพื้นที่ดังกล่าว แม้ไข้หวัดนกจะหายไปจากเชียงใหม่นานหลายปีแล้ว แต่ก็น่าเป็นห่วงเพราะการไปจับหรือสัมผัสตัวนก มูล ขนและน้ำลาย แล้วไม่ทำความสะอาดล้างมือไปหยิบกินอาหารหรือขนมกิน โดยเฉพาะเด็กๆ อาจทำให้ป่วยจากโรคท้องร่วงหรือโรคอาหารเป็นพิษได้ จึงอยากฝากเตือนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ควรจะหลีกเลียงการจับหรือสัมผัส และควรจะทำความสะอาดล้างมือก่อนจะกินอาหาร
ขณะที่ทาง ด้านนายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ยอมรับว่า ปัญหานกพิราบดังกล่าวเกิดจากการที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้อาหารนกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทำให้ฝูงนกพิราบปักหลักตั้งถิ่นฐานและขยายพันธุ์จำนวนมาก จนส่งผลกระทบทั้งความสะอาด กลิ่นเหม็น และหวั่นเกรงว่าจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคต่างๆ ซึ่งการดำเนินการนอกจากประสานงานทางสำนักงานปศุสัตว์เข้ามาสำรวจเก็บตัวอย่างไปตรวจหาว่ามีเชื้อโรคใดๆ หรือไม่ และฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาดแล้ว ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ จะมีการจัดกำลังเทศกิจทำการตรวจตราห้ามขายอาหารนกให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งหากพบจะทำการดำเนินคดีและยึดของกลางทั้งหมด พร้อมกันนี้ได้มีการติดป้ายขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวให้ช่วยกันงดให้อาหารนกพิราบ โดยจากการดำเนินการต่างๆ หวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาลงได้ในที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น