ตามรวบทันควันหนุ่มแสบขโมยบิ๊กไบค์ หลังผู้เสียหายจอดไว้หน้าวัดอุโมงค์

การจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 20 ก.ค.60 โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจร.สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ต.นรากร ปิ่นประยูร สวป.สภ.ภูพิงค์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุดวอน รอง สวป.สภ.ภูพิงค์ และพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสนธยา หรือสน ในกันทะ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 10/14 ม.5 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กม 1567 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน ในข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร (รถจักรยานยนต์)”

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก นายชัยพฤกษ์ งามพนา อายุ 35 ปี ว่าได้มีคนร้ายก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ที่ได้จอดไว้ริมถนนบริเวณด้านหน้าวัดอุโมงค์ ม.10 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะที่ทางผู้เสียหายได้ไปทำธุระ ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องจึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้งมา ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบผู้เสียหายยืนรอให้การและจากการตรวจสอบทราบว่าที่บริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดอยู่ จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรมาตรวจสอบ โดยช่วงเกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 30-40 ปี ใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เข้ามาก่อเหตุขโมยรถของผู้เสียหายไป และจากการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีพบว่า คนร้ายได้จูงรถของผู้เสียหายไปทางหมู่บ้านร่ำเปิง ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะนำรถไปซุกซ่อนไว้ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบตามเบาะแส

กระทั่งในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์ ที่ตรงกันกับผู้เสียหายแจ้งไว้ จอดอยู่ริมถนนบริเวณบ้านเลขที่ 10/14 ม.5 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการดักซุ่มดูคนร้าย จนในเวลาประมาณ 15.00 น. มีชายรูปพรรณตรงกันกับภาพกล้องวงจรปิดปรากฎตัวทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าทำการสอบถามชายคนดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อคือ นายสนธยา หรือสน และจากการสอบถามถึงที่มาของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวทางเจ้าตัวได้อ้างว่าได้มีเพื่อนที่รู้จักกันเอามาฝากไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อและได้ขอตรวจสอบเอกสารการครอบครอง แต่ทาง นายสนธยา หรือสน ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมและนำรถจักรยานยนต์ของกลางไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นรถคันเดียวกันกับที่ทาง นายชัยพฤกษ์ งามพนา แจ้งว่าถูกขโมยไป ดังนั้นจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำตัว นายสนธยา หรือสน มาทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ภูพิงค์

ทั้งนี้จากการสอบสวน นายสนธยา หรือสน ในที่สุดก็ได้รับสารภาพว่า รถจักรยานยนต์ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดไว้นั้นเป็นรถที่ตนได้ก่อเหตุขโมยมาจริง จากผู้เสียหายที่แจ้งความไว้ โดยในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางไปยังบริเวณริมถนนหน้าวัดอุโมงค์ และได้เห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ และเป็นจุดที่ลับสายตามคน ตนจึงรอจังหวะที่ไม่มีใครเห็นก่อเหตุทำการขโมยมาแล้วหลังจากนั้นก็ได้หลบหนี และนำรถจักรยานยนต์ที่ขโมยได้มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านของตน จนกระทั่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหนน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาตรวจสอบและถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามภายหลังการจับกุมตัวผู้ต้องหาแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งตัวพร้อมของกลางส่งให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ เพื่อดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น