ชม.เร่งดำเนินการ 9101ตามรอยเท้าพ่อ

สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่เผย จังหวัดเชียงใหม่รับงบประมาณ 497 ล้านบาท เร่งดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน เน้นการกระจายรายได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศไทยแลนด์ 4.0 และขับเคลื่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาภาคการเกษตรของชุมชน โดยให้เกิดการมีส่วนร่วมแบบประชารัฐอย่างยั่งยืน
นางภณิดา ชัยปัญญา หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถงข่าวความคืบหน้า “การดำเนินงานโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ในวาระการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 39/2560 ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
โดย นางภณิดา ชัยปัญญา หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยจังหวัดเชียงใหม่มีชุมชนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 255 ชุมชน แต่ละชุมชนได้เขียนโครงการและเสนอเข้ามาจนถึงปัจจุบัน จำนวน 871 โครงการ ทุกโครงการผ่านการเห็นชอบทั้งหมด วงเงินงบประมาณที่เห็นชอบอนุมัติให้ดำเนินการจำนวนทั้งสิ้นกว่า 497 ล้านบาท ประกอบด้วย 8 ด้านกิจกรรม คือ 1. ด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จำนวน 296 โครงการ 2. ด้านการผลิตพืชและพันธุ์พืชจำนวน 159 โครงการ 3. ด้านการผลิตอาหาร การแปรรูปผลผลิต และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจำนวน 143 โครงการ 4. ด้านปศุสัตว์จำนวน 126 โครงการ 5. ด้านประมงจำนวน 50 โครงการ 6. ด้านการเกษตรอื่นๆ 37 โครงการ 7. ด้านการจัดการศัตรูพืชจำนวน 14 โครงการ และ 8. ด้านการปรับปรุงบำรุงดินจำนวน 8 โครงการ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่หน่วยงานรับผิดชอบหลัก ได้เร่งทยอยลงนามบันทึกข้อตกลงคณะกรรมการระดับชุมชนในแต่ละตำบล เพื่อการดำเนินโครงการให้ทันตามกำหนดเวลา ตามมติ ครม. ให้เป็นกรณีที่ต้องเร่งรัด โดยเน้นการกระจายรายได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ทั่วถึง เป็นธรรม และโปร่งใส
นางภณิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและชุมชน ด้วยการนำหลักการทฤษฎีและแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานไว้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพเน้นการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกการทำงานในพื้นที่ ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ และนำไปปฏิบัติได้จริง เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นและชุมชน ที่ส่งผลต่อเนื่องให้ภาคการเกษตรมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอนาคต
หน.กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สนง.เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในตอนท้ายว่า ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางแนวทางการปฏิรูปภาคการเกษตรให้เกิดผลสำเร็จอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมทั้งให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศ ไทยแลนด์ 4.0 และขับเคลื่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาภาคการเกษตรของชุมชน โดยให้เกิดการมีส่วนร่วมแบบประชารัฐอย่างยั่งยืน ตลอดจนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) เป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ และภาคการเกษตรด้วย ซึ่งในขณะเดียวกัน ได้ขอให้คนไทยทุกคนน้อมนำแนวทางตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติงาน การดำเนินชีวิต และให้ตั้งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน

ร่วมแสดงความคิดเห็น