ป้าขายปูทะเลออกโต้ข่าว กรณีคลิปฉาว ปะทะคารมลูกค้าย่านกาดหลวง เหตุ “ห้ามจับปู”

ป้าขายปูทะเลออกโต้ข่าว กรณีคลิปฉาว ปะทะคารมลูกค้าย่านกาดหลวง เหตุ “ห้ามจับปู”

วันที่ 25 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีสมาชิกในเฟสบุ๊ค ที่ใช้ชื่อเพจว่า “อีสานบ้านทุ่ง” ที่ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ที่เป็นการโต้เถียงปะทะคารมกันอย่างแรง ระหว่างแม่ค้าขายปูทะเล กับลูกค้ารายหนึ่งที่เป็นเสียงผู้หญิง ซึ่งได้มีการตะโกนด่ากัน โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากทางฝ่ายลูกค้าคู่กรณี ได้เดินผ่านแผงขายปูทะสดดังกล่าว แต่ขณะนั้นได้หันไปใช้มือจับปูที่วางเรียงอยู่บนแผง จึงถูกแม่ค้าบอกห้ามจับ และนำไปสู่การปะทะคารมกันอย่างดุเดือด โดยเมื่อคลิปวีดีโอดังกล่าวปรากฎ ทางผู้โพสต์เรื่องราวในเพจดังกล่าว ได้ระบุบรรยายคลิปว่า “พอๆกัน คนซื้อก็สงสัยทำไม่จับปูไม่ได้ก็เลยขอแตะๆ ปูดู แค่นั้นแหละ มาเป็นชุดเลย แล้วลูกค้าก็ย่อยซะที่ไหน”

และในเวลาต่อมาไม่นานโพสต์ดังกล่าว ก็ได้ถูกแชร์ต่อไปเป็นวงกว้างจนกระทั่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งต่อตัวแม่ค้าขายปู และลูกค้าคู่กรณี ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และภายหลังตรวจสอบก็ทราบว่า คลิปวีดีโอนี้เกิดขึ้นภายในย่านตลาดวโรรส ในตัวเมืองเชียงใหม่

โดยภายหลังทางผู้สื่อข่าวได้ติดตามกรณีที่เกิดขึ้น และทราบว่าแม่ค้าที่ปรากฎในคลิปวีดีโอดังกล่าวคือ นางตติยา คำสอน หรือ “ป้าต้อย” อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายปูทะเลสด ที่ตั้งแผงขายอยู่ย่านตลาดวโรรส ในตัวเมืองเชียงใหม่ มานานหลายปี โดยจากการสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นภายในคลิปดังกล่าว ทางเจ้าตัวก็ได้ยอมรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า แม่ค้าที่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวเองจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางวันของวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.60 ที่ผ่านมา เริ่มจากที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาที่หน้าแผงแล้ว ใช้มือจิ้มปูที่วางเรียงขายอยู่บนแผงน้ำแข็ง ซึ่งตนก็ได้มีการเขียนป้ายบอกไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า ถ้าไม่ซื้อห้ามจับเล่น แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังมาจับอยู่

พอตัวเองเห็นดังนั้น จึงได้บอกไปว่า “อย่าจับ” แต่ในเวลาต่อมาเมื่อฝ่ายหญิงที่มากับผู้ชายคนดังกล่าว เห็นว่าตนตะโกนว่าฝ่ายชายก็ได้ตำหนิด้วยเสียงดังและใช้คำไม่สุภาพ รวมทั้งมีการสาปแช่งด้วย จึงทำให้ตนเกิดอารมณ์โมโหและโต้เถียงกันขึ้น โดยที่ระหว่างนั้นฝ่ายผู้หญิงคนดังกล่าว ก็มีการใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปวิดีโอไปด้วย พร้อมขู่ว่าจะนำไปโพสต์ประจานให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเปิดร้านขายไม่ได้อีกต่อไป แต่ตนก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมีคลิปภาพเหตุ การณ์ดังกล่าวปรากฎขึ้นมาในโซเชียล และมีบรรดาคนรู้จักโทรมาสอบถาม และพูดคุยด้วย ประกอบกับตนก็ได้ดูคลิปวีดีโอรวมทั้งกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจมาก


สำหรับกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการนำคลิปดังกล่าว ไปโพสต์และเผยแพร่ต่อ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น นางตติยา บอกว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือหนักใจแต่อย่างใด โดยยังคงขายของตามปกติ และมีลูกค้ามาซื้อปูทะเลของตัวเองเหมือนเดิม ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำอยู่แล้ว และมีคนให้กำลังใจตัวเองจำนวนมากเช่นกัน ส่วนเหตุผลที่ห้ามจับปูนั้น เนื่องมาจากปูทะเลที่วางขายมีราคาแพง จะเรียงไว้อย่างดี บางครั้งมีคนที่เดินผ่านไปมาเข้ามาจิ้มหรือจับเล่นทำให้ปูตกหล่นจากแผง ทั้งกระดองหรือก้ามแตก

รวมทั้งบางครั้งปูตาย แต่ไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือบางครั้งบางคนที่จับ ก็ถูกปูหนีบมือจนเกิดแผลและเลือดไหล เพราะปูที่วางขายยังมีชีวิตอยู่ ทางร้านจึงห้ามจับปูเล่น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ซึ่งทำอย่างนี้มากว่า 20 ปี ที่เปิดแผงขาย และลูกค้าต่างเข้าใจดี ทั้งนี้ยืนยันว่าหากเป็นลูกค้าที่เลือกซื้อจริงๆ สามารถจับและเลือกปูได้ แต่ห้ามคนที่ไม่ได้ซื้อจับเล่น ในส่วนของการดำเนินการทางกฎหมายกับ ผู้ที่นำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่นั้น คงไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะเสียเวลาทำมาหากิน และคิดว่าซักพักเรื่องคงเงียบไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น