ชูระบบสหกรณ์ช่วยชาวสวน ลำไยรอดพ้นวิกฤติราคาร่วง

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าผลผลิตลำไยในปีนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ว่าจะมี 377,687 ตัน ออกมากช่วงสิงหาคม 2560 ราวๆ 240,000 ตัน กรมฯมีนโยบายสนับสนุนสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่เชียงใหม่ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน เชียงราย ลำปางและตาก จำนวน 15 สหกรณ์ เป็นตัวกลางกระจายลำไยออกนอกพื้นที่ ซึ่งจะช่วยพยุงราคาไม่ตกต่ำ โดยสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์แก่สหกรณ์ 52.50 ล้านบาทและเงินอุดหนุนเพิ่มศักยภาพธุรกิจอีก 6,060,000 บาท
พร้อมจัดทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายสินค้าล่วงหน้าก่อนถึงฤดูกาล ระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ผู้ผลิตลำไยกับภาคเอกชนและเครือข่ายสหกรณ์ เช่น บริษัท เอก-ชัยฯ ลงนามซื้อลำไยจากสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จังหวัดลำพูน 500 ตัน เพื่อกระจายลำไยผ่านทุกสาขาของห้างเทสโก้ โลตัส ขณะที่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ลงนามซื้อลำไยกับสหกรณ์การเกษตรเสริมป่าซาง จำกัด 350 ตัน
ทางด้าน นายประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าจากการลงพื้นที่เชียงใหม่และลำพูนนั้นภาพรวมการเปิดจุดรับซื้อลำไยของสหกรณ์ในขณะนี้ สหกรณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดรับซื้อลำไยสด ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2560 โดยสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัดรับซื้อราคานำตลาด 0.5 – 1 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการผลิตลำไยคุณภาพกับสหกรณ์


ประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ด้านนายสุธรรม อ๊อดต่อกัน ประธานสหกรณ์สหกรณ์การเกษตรจอมทอง กล่าวว่าสหกรณ์ มีสมาชิก 1,560 ราย 250 รายเป็นสมาชิกที่ทำสวนลำไยในโครงการแปลงใหญ่ ร้อยละ 40 ทำสวนลำไยในฤดูกาล และร้อยละ 60 ทำสวนนอกฤดูกาล ช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมาสมาชิกต่างประสบปัญหาราคา สหกรณ์ได้ช่วยลดปัญหาด้านต้นทุนของสมาชิกโดยการออกรับซื้อ/รวบรวมผลผลิตลำไยถึงสวนราคารับซื้อสูงกว่าราคาตลาด แต่ก็ช่วยได้เพียงบางส่วนเนื่องจากมีทุนหมุนเวียนที่จำกัด


สำหรับจังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่มีผลผลิตมาก โดยสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัดได้รับซื้อลำไยในราคานำตลาดอยู่ที่ 2 – 4 บาท/กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรรวบรวมผลผลิตมาจำหน่ายให้กับสหกรณ์จำนวนมาก มีการคัดเกรดในการรับซื้อ ประกอบกับมีการเจรจาร่วมกับคู่ค้า คือ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ณ ห้างสาขาต่างๆ ทำให้เป็นช่องทางในการระบายผลผลิตได้เพิ่มมากขึ้น

นายสุเนตร อินต๊ะนิล สมาชิกสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด ลำพูนกล่าวว่า ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรทำสวนลำไย พยายามเรียนรู้ปรับตัวเพื่อสู้วิกฤตราคาลำไยที่ตกต่ำ จากประสบการณ์ที่ทำสวนมา 10 กว่าปีทำให้สามารถคาดการณ์ความเป็นไปของสภาวะราคาลำไย จึงทำคิดหารายได้เสริม โดยใช้พื้นที่ปลูกกล้วยหอมสายพันธ์ที่อยู่ในความต้องการของตลาด ปลูกแซมระหว่างต้นลำไย

ปัจจุบันที่ดินประมาณ 10 ไร่ ปลูกลำไยเฉลี่ยไร่ละ 24 ต้น ปลูกแซมกล้วยหอม 200 ต้น ต่อไร่ ผลผลิตที่ได้ คือ กล้วยหอมจะส่งจำหน่าย 7-11 และหน่อกล้วยจำหน่ายแก่เกษตรกรทั่วไป สร้างรายได้เพิ่มถึง 40,000 บาทต่อฤดูกาล
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ยืนยันว่าจากการลงพื้นที่ได้รับทราบอุปสรรคปัญหาลำไย ขณะนี้กรมฯได้มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด เป็นผู้ประสานการซื้อขายลำไยระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิตลำไยภาคเหนือกับเครือข่ายสหกรณ์ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อร่วมกระจายผลผลิตลำไยสู่ผู้บริโภค สร้างช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านไลน์ กลุ่มของสหกรณ์ผู้ผลิตลำไยกับสหกรณ์ผู้ซื้อปลายทาง ประสานข้อมูลเรื่องปริมาณและราคาที่จะสั่งซื้อระหว่างกัน
ปัจจุบันมีการเปิดรับการสั่งซื้อจากเครือข่ายสหกรณ์ในภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว 30 จังหวัด ปริมาณการสั่งซื้อ 115.5 ตัน ซึ่งสหกรณ์ในจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ พะเยาและน่านจะรวบรวมลำไยสดคุณภาพดีขนาด เอเอ. และ เอ. บรรจุลงกล่องขนาด 10 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 30-32 บาท ขนส่งโดยรถบรรทุกขนาดเล็ก บรรจุ 2.5 ตัน จัดส่งให้กับสหกรณ์ปลายทางภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 วัน ขึ้นอยู่กับระยะทาง สอบถามเพิ่มเติมกับสหกรณ์ผู้ผลิตลำไยในภาคเหนือโดยตรง เช่น สหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด และสหกรณ์การเกษตรเสริมป่าซาง จำกัด จังหวัดลำพูน สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ หรือที่กองพัฒนาสหกรณ์ 08 1911 3225


ตรวจเยี่ยม
ประยูร อินสกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมคณะตรวจเยี่ยมจุดรวบรวมและกระจายผลผลิตลำไยของสหกรณ์การเกษตรจอมทอง จำกัด จังหวัดเชียงใหม่


จากนั้น เข้าเยี่ยมชมสวนคุณลุงสุเนตร อินต๊ะนิล สมาชิกสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จังหวัดลำพูน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรทำสวนลำไย หนึ่งในสมาชิกที่ปรับตัวเพื่อสู้วิกฤตราคาลำไยที่ตกต่ำ พร้อมตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อลำไยของสหกรณ์ฯในพื้นที่ลำพูนด้วย
ขอบคุณ : กรมส่งเสริมสหกรณ์ / สหกรณ์การเกษตรจอมทอง เชียงใหม่ ,สหกรณ์การเกษตรประตูป่า ลำพูน-ข้อมูล

ร่วมแสดงความคิดเห็น