คาดการณ์เดือนสิงหาคม ราคาลำไยขยับตัวสูงขึ้น

คาดการณ์ช่วงเดือน ส.ค. นี้ ราคาลำไยขยับตัวสูงขึ้น หลังตลาดจีน และอินโดนีเซีย มีออร์เดอร์เพิ่ม ย้ำเกษตรกร เน้นขายลำไยสดช่อใส่ในตะกร้า แทนลำไยรูดร่วง โดยใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลัก ขณะที่รองผู้ว่าฯ ขอให้รณรงค์หันมาบริโภคลำไยมากขึ้นคาดการณ์ช่วงเดือน ส.ค. นี้ ราคาลำไยขยับตัวสูงขึ้น หลังตลาดจีน และอินโดนีเซีย มี   ออร์เดอร์เพิ่ม ย้ำเกษตรกร เน้นขายลำไยสดช่อใส่ในตะกร้า แทนลำไยรูดร่วง โดยใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลัก ขณะที่รองผู้ว่าฯ ขอให้รณรงค์หันมาบริโภคลำไยมากขึ้น

นางภูษณิศ ไชยมณี ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่มีลำไยออกมากที่สุด คาดว่าราคาลำไยสดช่อจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากราคาที่ขายในท้องตลาด เกรด AA ราคา 20-24 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ลำไยรูดร่วงยังทรงตัวอยู่ที่ราคา 12 บาท/กิโลกรัม โดยภาพรวมตลาดส่งออกเริ่มมีความคล่องตัว ผู้ประกอบการในต่างประเทศ ทั้งตลาดจีนและอินโดนีเซียมีความต้องการซื้อสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ราคาลำไยปรับสูงขึ้นตามความต้องการของตลาด

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากผลิตผลทางการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) ให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบความเป็นธรรมในการซื้อขาย โดยไม่ให้มีการปฏิเสธการรับซื้อผลผลิต และเพื่อเช็คปริมาณคงเหลือที่ผู้ประกอบการสามารถรับซื้อได้ ขณะเดียวกัน ได้มอบสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัด เช่น ลำไย ลิ้นจี่ ข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อวางแนวทางการบริหารจัดการด้านการผลิตและการตลาด ก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด 3 – 6 เดือน

ผู้อำนวยการกลุ่มกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า กล่าวว่า วันที่ 27 – 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กระจายลำไยสดออกนอกแหล่งผลิตไปยังปลายทาง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา อยุธยา นครสวรรค์ และกรุงเทพฯ รวม 12 ตัน โดยขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และรับซื้อผลผลิตลำไยสดของจังหวัดเชียงใหม่ ในรูปแบบของลำไยสดช่อ บรรจุตะกร้าขนาด 3 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม เป้าหมายวันละ 500 ตัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป เบื้องต้นมีการสั่งซื้อผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแล้ว 66 ตัน และจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอีก จำนวน 15 ตัน ซึ่งคาดว่าราคาผลิตลำไยจะค่อยๆ สูงขึ้น หากสามารถกระจายไปยังทั่วประเทศได้เร็วที่สุด

“ราคาที่ขยับขึ้นนั้นจะเป็นลำไยสดช่อในตะกร้า ที่ดีดตัวขึ้นวันละ 1 บาท แต่ลำไยร่วงราคาจะลงมาวันละ 1 บาท ลำไยที่ส่งออกไปยังประเทศอินโดฯ ส่วนใหญ่จะเป็นลำไยสดช่อในตะกร้า ผิวจะไม่ค่อยสวยเท่าไร่ ผิวจะออกดำๆ จะไม่เหมือนของจีน ราคาของอินโดฯ ก็จะต่ำกว่าจีน แต่ราคาเริ่มดีดขึ้นแล้ว ขณะนี้ออเดอร์จากจีนและอินโดนีเซียเริ่มเข้ามา จึงขอให้เกษตรกรระดมแรงงานในครัวเรือน เร่งเก็บผลผลิตเป็นลำไยสดช่อที่ใส่ในตะกร้าดีกว่า ถ้าเก็บเป็นลูกร่วงราคาจะต่ำกว่า เนื่องจากเกษตรกรมีปัญหาเรื่องแรงงาน จึงต้องเก็บลำไยที่รูดร่วงขาย พอลำเลียงไปถึงเตาแล้วเตาเต็ม ทำให้ราคาลดลงตามกลไกราคาตลาด” “ราคาที่ขยับขึ้นนั้นจะเป็นลำไยสดช่อในตะกร้า ที่ดีดตัวขึ้นวันละ 1 บาท แต่ลำไยร่วงราคาจะลงมาวันละ 1 บาท ลำไยที่ส่งออกไปยังประเทศอินโดฯ ส่วนใหญ่จะเป็นลำไยสดช่อในตะกร้า ผิวจะไม่ค่อยสวยเท่าไร่ ผิวจะออกดำๆ จะไม่เหมือนของจีน ราคาของอินโดฯ ก็จะต่ำกว่าจีน แต่ราคาเริ่มดีดขึ้นแล้ว ขณะนี้ออเดอร์จากจีนและอินโดนีเซียเริ่มเข้ามา จึงขอให้เกษตรกรระดมแรงงานในครัวเรือน เร่งเก็บผลผลิตเป็นลำไยสดช่อที่ใส่ในตะกร้าดีกว่า ถ้าเก็บเป็นลูกร่วงราคาจะต่ำกว่า เนื่องจากเกษตรกรมีปัญหาเรื่องแรงงาน จึงต้องเก็บลำไยที่รูดร่วงขาย พอลำเลียงไปถึงเตาแล้วเตาเต็ม ทำให้ราคาลดลงตามกลไกราคาตลาด”

ด้าน นายประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาราคาลำไยตกต่ำขณะนี้ เนื่องจากผู้บริโภคหลักจากประเทศจีน สามารถควบคุมราคาผลผลิตลำไยในตลาดได้ เป็นแบบนี้มาเป็น 10 ปี จึงขอฝากให้ทางพาณิชย์จังหวัดหาวิธีให้คนไทยหันมาบริโภคลำไยมากขึ้น โดยเพิ่มช่องทางการตลาดไปยังประเทศต่างๆนอกเหนือจากประเทศจีน ที่บริโภคลำไยสดประเภทต่างๆ ในรูปแบบของเค้กลำไย ไอศครีมลำไย หรือ การแปรรูปอื่นๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละประเทศ ทั้งในทวีปยุโรปและอเมริกา โดยในอนาคตจะไปเปิดตลาดที่ตะวันออกกลางเพิ่ม เพราะมีจำนวนประชากรมากพอกับประเทศจีน เพื่อหาแหล่งตลาดรองรับผลิตที่จะออกจากประเทศไทยให้มากที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น