ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จัดฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ รับมือผู้ก่อการร้ายขู่วางระเบิด

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน กรณีการขู่วางระเบิดท่าอากาศยาน พร้อมจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง เพื่อให้ จนท.เข้าร่วมการฝึกได้เตรียมรับมือ เนื่องจากปัจจุบันภัยคุก คามจากการก่อการร้าย ยังมีแนวโน้มสูงมากและอากาศยาน มักจะตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้าใช้บริการเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 3 ส.ค.60 น.อ.วิสูธ จันทนา ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินประจำปี 2560 ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท.) ในฐานะท่าอากาศยานที่ให้บริการอากาศยานพาณิชย์ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ จัดขึ้น ตามข้อบังคับของคณะกรรมการ การบินพลเรือน ฉบับที่ 82 ว่าด้วยระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน และตามมาตรฐานสากลขององค์การ การบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในภาคผนวกที่ 14 ตอนที่ 7 ว่าด้วย “การวางแผนรับเหตุฉุกเฉินของท่าอากาศ ยาน”

DOC 9137 กำหนดให้ท่าอากาศยานต้องมีแผนฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้ดำเนินการฝึกซ้อมบนโต๊ะจำลอง (Table-top Exercise) อย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง ยกเว้นในช่วงเวลา 6 เดือน ที่ดำเนินการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ การฝึกซ้อมบางส่วน (Partial Exercise) อย่างน้อยปีละครั้ง สำหรับในปีที่ไม่มีการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบหรือแล้วแต่กำหนด และการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise) อย่างน้อย 2 ปีต่อครั้ง กอร์ปกับนโยบายด้านความปลอดภัยของ ทอท.

ได้กำหนดให้ท่าอากาศยานในกำกับดูแลทุกแห่ง ฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำทุกปีงบประมาณ เพื่อทดสอบความรวดเร็ว ถูกต้อง และความชำนาญ เกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงานการวางแผน การควบคุมและสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตลอดจนทดสอบขีดความสามารถของเครื่องมือ และอุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย การดับเพลิงและกู้ภัย การแพทย์ ข่ายการติดต่อสื่อสารและการประสานงาน เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้มาใช้บริการ ผู้โดยสารและสายการบิน
โดยการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินในปีนี้ ได้ดำเนินการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในบทที่ 9 เรื่องการขู่วางระเบิดอากาศยานและอาคารสถานที่ (Bomb threat on aircraft) เนื่องจากปัจจุบันภัยคุกคาม จากการก่อการร้ายยังมีแนวโน้มสูงมาก และอากาศยานมักจะตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุ ทั้งนี้ได้สมมุติสถาน การณ์ ให้ จนท.ประชาสัมพันธ์ ทชม.รับแจ้งทางโทรศัพท์จากผู้ไม่หวังดี ว่ามีวัตถุระเบิดในสัมภาระของผู้โดยสาร ของสายการบิน AB เที่ยวบินที่ AB101 ซึ่งจะเดินทางไปยังประเทศ ABC หลังรับแจ้งเหตุ ทชม. ได้แจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยว ข้อง และประกาศใช้แผนฉุกเฉิน บทที่ 9

เรื่องการขู่วางระเบิดอากาศยานและอาคารสถานที่ และนำเครื่องบินลำดังกล่าวเข้าจอดที่หลุมจอด Isolate Parking พร้อมทั้งลำเลียงผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 180 คน ออกจากอากาศยานไปยังพื้นที่ ศูนย์รับรองผู้ประสบภัย (Bus Gate 11-14) และขนถ่ายสัมภาระลงจากอากาศยาน เพื่อให้ จนท.หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) ตรวจสอบ แต่ขณะขนถ่ายสัมภาระออกจากอากาศยาน ได้เกิดเหตุระเบิดจากสัม ภาระบรรทุก แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ จำนวนหนึ่ง ซึ่ง ทชม.ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสส่ง รพ.

ขณะที่ จนท. EOD ได้ทำการพิสูจน์ทราบกระเป๋าสัมภาระที่เหลือ เมื่อพบว่าปลอดภัยจึงให้ผู้โดยสาร มาพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ โดยแบ่งกลุ่มคราวละ 10 คน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ผู้โดยสารทั้งหมดในเที่ยวบินนี้ อยู่ในฐานะของผู้ต้องสงสัย จึงต้องถูกยกเลิกการเดินทาง โดย จนท.ตรวจคนเข้าเมือง และส่งให้ พงส.สภ.ภูพิงค์ราช นิเวศน์ ดำเนินการต่อไป
สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วย ที่เข้าร่วมทำการฝึกซ้อม โดยเฉพาะสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ที่ได้ให้การสนับสนุนอากาศยาน และบุคลากรเข้าร่วมฝึกซ้อม ครบตามองค์ประกอบที่กำหนดไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทชม.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การฝึกซ้อมในครั้งนี้ นอกจากสร้างความพร้อมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ยังจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และผู้ที่เข้ามาใช้บริการว่า ทชม. มีขั้นตอนการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินของผู้เข้ามาใช้บริการได้ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ต่างๆ อันจะเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น