กทบ.เลือกนักบัญชี ตรวจกองทุนหมู่บ้าน

กทบ.เร่งสอบคัดเลือก ผู้ตรวจสอบบัญชี หวังให้ครบ 1,000 คน ส่งเข้าตรวจสอบกองทุน หมู่บ้านทั่วประเทศ สร้างความเข้มแข็งของกองทุนชุมชนกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า
นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวย การสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวถึงแนวทางการคัดเลือกผู้ตรวจสอบบัญชีและทิศทางว่า คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีกองทุนหมู่บ้าน ต้องมี
คุณวุฒิทางบัญชีซึ่งทางสมาคมบัญชีกำหนดคุณภาพมาตรฐาน และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์มากขึ้นกับกองทุนหมู่บ้าน คือจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถตามข้อกำหนดของกองทุนฯ เพื่อทำให้กองทุนฯ ที่ผ่านออกมาจากการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบเหล่านี้เป็นกองทุนฯที่ได้รับการยอมรับ หรือได้รับการยืนยันในเรื่องคุณภาพมาตรฐาน
เราได้แจ้งแผนงานการการดำเนินงานของผู้ตรวจสอบบัญชีว่า ในภาระที่ผู้ตรวจสอบบัญชีทำจะต้องมีการตรวจสอบทั้งบัญชีปกติ และตรวจสอบ
บัญชีกรณีพิเศษ ผู้ตรวจสอบบัญชีจึงต้องเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ทั้งสองกรณี โดยให้ทุกคน
ที่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ได้ใช้องค์ความรู้ ประสบการณ์อย่างเต็มที่ นอกแหนือจากการตรวจสอบบัญชีแล้วต้องเป็นวิทยากรให้คำแนะนำกับพี่น้องชาวกองทุนฯด้วย โดยเฉพาะคณะกรรมการกองทุนฯ ให้เตรียมความพร้อมที่จะสร้างบัญชีหรือคุณภาพมาตรฐานเพื่อรองรับการตรวจสอบได้ เปรียบเหมือนกับผู้ตรวจสอบบัญชีเป็นครูทำหน้าที่ตรวจการบ้าน เราก็อยากให้ครูเตรียมความพร้อมเรื่องการแนะนำผู้ทำการบ้านให้รู้แนวทางหรือวิธีการทำการบ้านให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องทำบัญชีเพื่อตรวจสอบเท่านั้น แต่ต้องทำบัญชีเพื่อการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพกับองค์กร ดังนั้นสิ่งที่ฝากกับผู้ตรวจสอบบัญชีคือ ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีเข้าไปช่วยสร้างสรรค์และพัฒนากองทุนฯ ไม่ใช่ไปเพื่อจับผิดพี่น้องชาวกองทุนฯ เพื่อให้พี่น้องชาวกองทุนฯ และพี่น้องผู้ตรวจสอบบัญชีได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจและช่วยสนับสนุนใหเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยตั้งความหวังว่าในปีรอบบัญชี 2560 ซึ่งจะเริ่มตรวจประมาณเดือน ม.ค.- เม.ย.2561 เราจะมีผู้ตรวจสอบบัญชีที่พอพียงตามเป้าหมาย จึงตั้ง
เป้าไว้ว่าเราจะมีผู้ตรวจสอบบัญชีให้ครบ 1,000 คน 
ภายในปลายปีนี้
นายนทีกล่าวว่า เป้าหมายของคุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกองทุนหมู่บ้านฯ เป็นเจ้าของแนวความคิดสร้างไทยแลนด์ 4.0 ท่านหวังว่าการจะเกิดไทยแลนด์ 4.0 ได้จะต้องมีหมู่บ้าน 4.0 เป็นพื้นฐาน การจะมีหมู่บ้าน 4.0 ได้ต้องทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองเป็นกองทุน 4.0 ยุทธศาสตร์ของ
กองทุนหมู่บ้านคือทำยังไงจะยกระดับกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศให้เป็นกองทุนหมู่บ้าน 4.0 เพื่อเป็นฐานรองรับการพัฒนาพัฒนาหมู่บ้านไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป
ทั้งนี้ กองทุนหมู่บ้านดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 16 ได้รับเงินจากรัฐบาลในช่วง 16 ปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งพี่น้องชาวกองทุนฯทั่วประเทศได้ใช้เงินรัฐบาลอย่างน่าชื่นใจ เนื่องจากเอ็นพีแอลหรือหนี้เสียจากโครงการต่างๆ มีจำนวนน้อยมาก เช่น ตัวอย่างโครงการเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลให้เงินกองทุนฯ ไป 3.5 หมื่นล้านบาท กองทุนก็สามารถนำไปทำโครงการที่เกิดดอกออกผลได้รับผลตอบแทนจนรัฐบาลมีความมั่นใจและสบายใจที่จะจัดสรรเงินให้กองทุนฯอีก 1.5 หมื่นล้านในปีนี้ ซึ่งเราก็ดำเนินการสนับสนุนเงินจำนวน 1.5 หมื่นล้าน
ในโครงการประชารัฐภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้
ปัจจุบันสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศมีประมาณ 13 ล้านคน ซึ่งไม่ได้หมายถึงเฉพาะตัวสมาชิกเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ยังพ่วงถึงครัวเรือนของสมาชิกเหล่านั้นด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเราบวกครัวเรือนเข้าไปก็คิดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคนเป็นอย่างน้อยที่ได้ประโยชน์จากกองทุนฯ เพราะการทำโครงการแต่ละโครงการทำให้เกิดเงินหมุนเวียนหลายรอบ เช่น กองทุนหมู่บ้านฯ ไปสร้างร้านค้า ผู้ได้รับประโยชน์จากร้านค้าไม่ใช่แค่สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบอาชีพที่สามารถนำสินค้าเข้าไปขายในร้านค้า ทำให้เงินของกองทุนหมู่บ้านสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากหมุนไม่ต่ำกว่า 7- 8 รอบ
ซึ่งขณะนี้กองทุนหมู่บ้านฯ ได้จัดสอบและขึ้นทะเบียนผู้ตรวจสอบบัญชีกองทุนหมู่บ้าน 2 รุ่น โดยมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 381 คน มีเป้าหมายจะขึ้นทะเบียนให้ครบ 1,000 คน เพื่อดูและกองทุนหมู่บ้านได้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ร่วมแสดงความคิดเห็น