ทหารนำกำลังลงพื้นที่แก่งก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน หลังครูโพสต์เฟซบุ๊ก วอนกำจัดผักตบชวา

      ทหารนำกำลังลงพื้นที่แก่งก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน หลังครูโพสต์เฟชบุ๊ก วอนกำจัดผักตบชวากีดขวางทางเรือของเด็กที่เดินทางไปเรียนต้องเสี่ยงอันตราย ล่าสุด ปฎิบัติงาน 3 วันแล้ว ท่ามกลางความปลามปลื้มของเด็กและครู รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง

      จากกรณี นายสามารถ สุทะ ครูโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้โพสต์ภาพถ่ายและคลิปวิดิโอ ผ่าน เฟซบุ๊กในชื่อ ‘ครูมาด เรือนแพ’ แสดงถึงสภาพความยากลำบากของเด็กนักเรียนและครู ที่ต้องนั่งเรือฝ่าดงผักตบชวา ที่ขึ้นมาหนาแน่นในช่วงฤดูฝน และกีดขวางเส้นทางน้ำ ขณะเดินทางเข้าไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ซึ่งตั้งอยู่บนเรือนแพในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งทำให้ชาวเน็ตแห่แชร์วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
      ซึ่งนายสามารถหรือครูมาดเปิดเผยว่าการเดินทางไปโรงเรียนบ้านก้อสาขาเรือนแพขณะนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ตนเป็นครูคนเดียวของที่นั่น ตอนเช้าต้องขับเรือเข้าไป แต่การสัญจรตอนนี้ค่อนข้างติดขัดอย่างหนัก ปกติเส้นทางนี้นอกจากครู นักเรียนแล้ว ยังมีพระสงฆ์และประชาชนรวมกันกว่า 100 ครอบครัวที่อาศัยเส้นทางนี้เข้าออก ก่อนหน้านี้ใช้เวลาในการนั่งเรือประมาณ 40 นาทีเพื่อไปสอนหนังสือที่โรงเรียนเรือนแพ แต่ตอนนี้ผักตบชวาขวางต้องใช้เวลานั่งเรือตั้งแต่ 8.00-13.00 น. หรือร่วมกว่า 5 ชั่วโมงจึงถึงที่หมาย

      ล่าสุด วันนี้ 25 ส.ค. 60 ทางด้าน พ.อ.นพดล คามเกตุ รองเสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ลำพูน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียน ชาวบ้าน ที่เดินทางเรือ บ้านก้อจัดสรรดังกล่าวแล้วอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แล้ว โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่อำเภอลี้และผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิงร่วมกันปฎิบัติงานช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นำกำลังพลทหาร ร.7 พัน 2 กว่า 40 นาย พร้อมอุปกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำจัดผักตบชวาในแก่งก้อ แม่น้ำปิง พร้อมกับประสานผู้เชี่ยวชายจากเขื่อนภูมิพล นำน้ำยาฮอร์โมนกำจัดผักตบชวาที่ไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำหรือสิ่งแวดล้อมมาฉีดพ่นให้ผักตบชวายุบตัว ซึ่งการปฎิบัติงานคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน เป็นอย่างต่ำ และต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำปิง บริเวณแก่งก้อทั้งลึกและไหลเชี่ยว อาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อการเดินทางไปเรียนหนังสือของเด็กนักเรียน

      อย่างไรก็ตามนอกจากกำจัดผักตบชวาที่ขวาวงทางเดินเรือแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาโรงเรียนเพื่อให้มีความแข็งแรง ไม่อันตรายต่อเด็กนักเรียนที่มาเรียนหนังสือบนเรือนแพดังกล่าว ขณะเดียวกันยังได้ทำการปรับปรุงแปลงเกษตรลอยน้ำบนแพด้วย รวมทั้ง ติดตั้งแสลน บริเวณด้านใต้หลังคาโรงอาหาร เพื่อกันความร้อนและป้องกันการรั่วไหลของน้ำฝน คาดว่าหลังจากนี้เด็ก ๆ และครูโรงเรียนเรือนแพ คงจะมีความสุขในการเรียนการสอนได้อย่างดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น