เชียงใหม่เกิดฝนตกหนักช่วงค่ำที่ผ่านมา ต้นไม้ใหญ่ขนาด 3 คน โอบล้มทับบ้านเรือนประชาชน

เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 25 ส.ค.60 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ตามที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้มีการประกาศแจ้งเตือนมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งในเวลาต่อมามีรายงานแจ้งว่าบางจุดได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในครั้งนี้ โดยที่บริเวณบ้านเลขที่ 21 หมู่1 บ้านเชิงดอย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้เกิดเหตุ ต้นไม้ใหญ่สูงประมาณ 5 เมตร ขนาด 3 คนโอบ ล้มทับบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายขึ้น ภายหลังทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมี นายวีระศักดิ์ ขุนนา อายุ 55 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยอาศัยอยู่กับภรรยาอีก 1 คน โดยระหว่างเกิดเหตุนั้นไม่มีผู้ใดอยู่ภายในบ้าน จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่จากการที่ต้นไม้ล้มลงมาส่งผลให้หลังคาบ้านพังเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันทำการใช้อุปกรณ์เลื่อยยนต์ช่วยกันตัดกิ่งไม้ที่ล้มลงมาและเร่งเคลียพื้นที่ จนกระทั่งเหตุการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามทาง นายอาศ ศรีวิชัย อายุ 61 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ฝนนกำลังตกหนักอยู่นั้นจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงต้นไม้หัก และเสียงล้มลงมาดังลั่น ตนจึงออกมาตรวจสอบ ก็พบว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับบริเวณบ้านของ นายวีระศักดิ์ ที่อยู่ไม่ห่างกันมานัก ได้หักโค่นลงมาทับหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย แต่ระหว่างนั้นทราบว่าทางเจ้าของบ้านได้ออกไปข้างนอก ตนจึงได้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าความเสียหายที่เกิดเหตุในครั้งนี้นั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมทั้งจะได้ดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับในช่วงนี้รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือตอนบนนั้นยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตามที่ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้รายงานสภาพอากาศ พร้อมทั้งได้แจ้งเตือนให้ทางประชาชนเฝ้าระวังและเตรียมรับมือ โดยจากการติดตามสภาพอากาศของพื้นที่ในช่วงนี้ยังพบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีก าลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ อนึ่ง เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (25 ส.ค.60) พายุโซนร้อน “ปาข่า” (PAKHAR) มีบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 123.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่าจะเลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ 26 ส.ค.60 มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางเกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 27-28 ส.ค.60

ดังนั้นในระยะแรกพายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่เมื่อพายุนี้เคลื่อนเข้าใกล้ประเทศเวียดนามตอนบนจะทำให้ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที ขณะที่ภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ และน่าน

นอกจากนี้ทางด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีหนังสือวิทยุสื่อสารด่วนที่สุด สั่งการให้นายอำเภอทุกแห่ง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆในพื้นที่ จากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังมีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ฮาโตะ” จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 25-28 สิงหาคมนี้ ภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและอาจจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม โดยจังหวัดเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จึงขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้ง แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะที่ราบต่ำ ริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา รวมถึงพื้นที่เสี่ยงภัย ที่เคยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ทั้งนี้ ขอให้มีการบูรณาด้านการดำเนินการและประสานงานในกลุ่มจังหวัด พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานชลประทาน มูลนิธิ และอาสาสมัคร เตรียมความพร้อมกำลังพล วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร และยานพาหนะ ให้พร้อมปฏิบัติงานอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น