“วัดน้ำฮู”น่าอัศจรรย์ ชื่อวัดมาจากการที่มีน้ำไหลออกมาจาก”ฮู”

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 เวลา 11.45 น.นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย ร่วมต้อนรับพร้อมนำ นายดนัย การพจน์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คณะผู้บริหารแขวงสะหวันนะเขต และแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ศึกษาดูงานสถานที่ท่องเที่ยว “วัดน้ำฮู” ณ วัดน้ำฮู บ้านน้ำฮู หมู่ที่ 5 ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน“วัดน้ำฮู” ชื่อวัดมาจากการที่มีน้ำไหลออกมาจาก”ฮู” หรือ “รู” นั่นเอง ในปี พศ.2474 ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนา ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ธุดงมายังอำเภอปายได้เห็นสภาพทรุดโทรมของวัดและได้พบพระพุทธรูป พร้อมสถูปเจดีย์ซึ่งอยู่หลังวิหาร รกร้าง จึงได้สร้างวิหารสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมกับสร้างเจดีย์ขึ้นด้านหลังวิหาร 1 องค์ ต่อมาในปี พศ.2517 นายอาณัติ บัวขาว นายอำเภอปาย ได้ตั้งชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่ออุ่นเมือง” เป็นมิ่งขวัญให้ประชาชนชาวอำเภอปาย อุ่นอกอุ่นใจ
“หลวงพ่ออุ่นเมือง”เป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม (ศิลปะเชียงแสน-ล้านนา) อายุเก่าแก่ร่วม 500 ปี หล่อด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 28 นิ้ว สูง 30 นิ้ว ส่วนพระเศียรกลวง มีพระเมาฬีครอบ เปิด-ปิดได้และมีน้ำซึมขังอยู่ในพระเศียรอยู่ตลอดเวลา คณะศรัทธาวัดน้ำฮูได้อธิษฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยตักน้ำในเศียรพระออกจนหมดและใช้สำลีซับน้ำจนแห้งสนิท แล้วทำการปิดพระเศียรผูกเชือกประทับตราครั่ง มีกำหนดเวลา 5 วันเมื่อครบกำหนดได้ทำการเปิด ผลปรากฏว่ามีน้ำขังอยู่ในเศียรของหลวงพ่ออุ่นเมืองจริง แล้วน้ำที่มีอยู่ ในพระเศียรก็ยังคงมีอยู่เป็นที่น่าอัศจรรย์จนถึงปัจจุบัน ด้านหลังมีพระสถูปเจดีย์สีเหลืองทองภายในบรรจุเส้นพระเกศาของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา
“ศาลากลางน้ำ” ภายในประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระเอกาทศรถ รูปหล่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรูปหล่อสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา สำหรับให้ประชาชนได้กราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคลในชีวิต

ร่วมแสดงความคิดเห็น