รอง ผบ.ตร.สั่ง จนท.หลายหน่วยงาน ตามแกะรอยแก๊งค้าไม้ข้ามชาติ ยึดได้มูลค่ากว่า 7 ล้าน

ขยายผลจากเชียงราย ส่งขายประเทศจีน สืบพบมาจ่ายเงินมัดจำไม้ไว้ในพื้นที่ จ.ลำปาง เตรียมเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ตรวจยึดได้มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท หากหลุดออกไปนอกประเทศ มูลค่าหลายสิบล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.60 กำลัง จนท.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ โดยการอำนวนการสั่งการของ นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 พร้อมด้วย จนท.ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม กก.4 บก.ปทส. สายที่ 1 ลำปาง จนท.กอ.รมน.จ.ลำปาง จนท.หน่วยป้องกันและรักษาป่าในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม และ อ.วัง เหนือ จนท.ตชด.33 เชียงใหม่ จนท.ตำรวจ ศปทส.ภ.5 จนท.ตำรวจ หน่วยปฏิบัติหารพิเศษ ภ.จว.ลำปาง ทหารจากค่ายฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา

ฝ่ายปกครอง อ.แจ้ห่ม นำโดย พ.อ.สมศักดิ์ เตชะสืบ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ลำปาง พ.ต.อาทิรัช ปุ๊ดหน่อย ผบ.ร้อย ฝึกรบพิเศษประตูผา นายศักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ส่วนป้องกันปราบปรามภาคเหนือ นายเมธี ศาสตร์ศรี นายเจษฎา เอนกคณา หน.สายตรวจ ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 ได้สนธิกำลัง จนท.กว่า 50 นาย กระจายเข้าควบคุมบ้านต้องสงสัยจำนวน 3 หลัง ในพื้นที่บ้านทุ่งฮ้าง หมู่ 1 ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

โดยบ้านหลังแรก เลขที่ 79 พบว่าไม่มีใครอยู่อาศัยภายในบ้าน รอบบ้านมีสภาพโครงไม้หลังใหญ่ เมื่อ จนท.เปิดประตูเข้าไปดูพบว่าภายในบ้าน มีไม้เถื่อนซุกซ่อนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นไม้ประดู่ท่อนจำนวน 18 ท่อน ไม้ประดู่แปรรูป ไม้สักแปรรูป ส่วนบ้านหลังที่ 2 เลขที่ 176 พบไม้ประดู่ท่อนจำนวน 18 ท่อน และไม้แปรรูปขนาดใหญ่ซุกซ่อนจำนวนมากอีกเช่นกัน และบ้านหลังที่ 3 เป็นบ้านไม่มีเลขที่ พบว่าเป็นบ้านไม้หลังใหญ่มีเสาไม้ประดู่ขนาดใหญ่มากถึง 40 ต้น บนบ้านชั้นที่ 2 มีไม้แปรรูปซุกซ่อนอีกจำนวนมาก ทาง จนท.จึงได้ตรวจยึดไม้แปรรูป และส่วนที่สร้างอำพรางไว้ทั้งหมด ส่วนไม้ท่อนที่เป็นเสาบ้านได้ ทำการอายัดห้ามไม่ให้ใครเข้าไปเด็ดขาด เบื้องต้นของกลางเป็นไม้ท่อนและแปรรูป มากกว่า 1,000 แผ่น รวมมูลค่าของกลางกว่า 7 ล้านบาท และเลื่อยยนต์อีก 3 ตัว

ส่วนการตรวจยึดจับกุมในครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งของ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.แห่งชาติ หลังจากที่ได้มีการตรวจยึดไม้ประดู่แปรรูปในที่พื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเดือนก่อน และได้มีการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติกลุ่มนี้ ได้มีการเข้ามาติดต่อ ซื้อบ้านไม้ทั้ง 3 หลังไว้แล้วมูลค่าถึง 7 ล้านบาท และวางเงินมัดจำไปเกือบล้านบาท จนท.จึงได้เข้าทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมด และจะได้เร่งขายผลไปอีกหลายจุด เพื่อทลายเครือข่ายแก๊งค้าไม้ข้ามชาติให้หมดสิ้นต่อไป

สำหรับกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติกลุ่มนี้ เป็นขบวนการใหญ่ที่หลบหลีกการจับกุมมาได้หลายครั้ง เพราะอาศัยการเคลื่อนย้ายบ้านไม้เรือนเก่าบังหน้า โดยจะเน้นเอาไม้ประดู่ ไม่ว่าจะแปรรูปหรือไม้ท่อน หากติดต่อซื้อได้แล้ว ก็จะเข้ามาซักลากและอาศัยขนข้ามตามแนวตะเข็บชายแดนเป็นแหล่งขนย้าย ไปยังประเทศจีน ซึ่งไม้เหล่านี้เป็นที่ต้องการของคนจีนและจะทุ่มเงินไม่อั้น เพื่อไปทดแทนไม้ชิงชันที่เริ่มหายากในพื้นที่ทางภาคอีสาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น