จับคู่เจรจา พ่อค้ากับวิสาหกิจชุมชน

เมืองพะเยาจัดแถลงข่าวการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างวิสาหกิจชุมชนและพ่อค้านักธุรกิจ ภายใต้โครงการเพิ่มผลิตภาพและคุณภาพการผลิตข้าวปลอดภัย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ข้าวของจังหวัดพะเยาได้รับรางวัล ทั้งยังเพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดพะเยาให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ผ่านมา นายปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายอุดมศักดิ์ คำมูล เกษตรจังหวัดพะเยา และ นายจรัส สุทธิกุลบุตร ประธานบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพะเยา จำกัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างวิสาหกิจชุมชนและพ่อค้านักธุรกิจ ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา
โดย นายอุดมศักดิ์ คำมูล เกษตรจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ผลิต ผู้บริโภคในระดับร้านอาหารและโรงแรม ได้พบปะเพื่อเจรจาธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลดีถึงการท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัดพะเยา ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้ปี 2561 เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างวิสาหกิจชุมชนและพ่อค้านักธุรกิจ ภายใต้โครงการเพิ่มผลิตภาพและคุณภาพการผลิตข้าวปลอดภัย กิจกรรมพัฒนาศักยภาพการรวมกลุ่มของเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมย่อยเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชนจังหวัดพะเยา ตามแผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งจังหวัดพะเยาได้รับรางวัลชนะเลิศจากระดับประเทศปี 2560 ทั้งรางวัลที่ 1 และรางวัลที่ 2 และเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนได้พบกับพ่อค้า นักธุรกิจ ร้านอาหาร โรงแรม ในพื้นที่จังหวัดพะเยาโดยตรง เพื่อเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดพะเยาให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย รวมทั้งให้เจ้าของร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมในพื้นที่จังหวัดพะเยา ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อบริการแก่ลูกค้า ตลอดจนเพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา
เกษตรจังหวัดพะเยา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จังหวัดพะเยามีวิสาหกิจชุมชนทั้งสิ้น 1,361 กลุ่ม แบ่งออกเป็นกลุ่มที่มีผลิตภัณฑ์สินค้าด้านการเกษตร (กลุ่มข้าว) จำนวน 95 กลุ่ม อย่างไรก็ตาม มีวิสาหกิจชุมชนที่มีผลิตภัณฑ์ข้าวที่โดดเด่นและผ่านการรับรอง GAP จำนวน 19 กลุ่ม เข้าร่วมการจัดงานดังกล่าวในครั้งนี้ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่ทำชื่อเสียงให้แก่จังหวัดพะเยาในเรื่องของความอร่อยที่ปลอดภัยต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น