เดินหน้าโครงการ “ประชารัฐ สู่ธนาคารที่ดิน” นำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่ 5 ชุมชน

สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เดินหน้าโครงการ “ประชารัฐ สู่ธนาคารที่ดิน” เปิดโครงการนำร่องธนาคารที่ดินในพื้นที่ 5 ชุมชน

มีทั้งเชียงใหม่และลำพูนได้รับมอบที่ดินทำกิน จัดรูปแบบสหกรณ์เป็นองค์กรเข้าจัดการ ชาวบ้านได้แค่สิทธิทำกินสืบชั่วลูกหลาน ซื้อขายเปลี่ยนมือต้องเป็นมติสหกรณ์ ฝันหวานเป็นก้าวสำคัญที่จะไปสู่การเป็นธนาคารที่ดิน

ที่ศาลาประชาคมบ้านแพะใต้ อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน พล.อ.วิทยา จินตนานุรัตน์ ที่ปรึกษากรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน พร้อมด้วย นายสถิตพงษ์ สุดชูเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน นายสมเจตน์ โรจน์พัฒนากุล ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการที่ดินรัฐ เดินทางมาร่วมกิจกรรม “เดินหน้าประชารัฐ… สู่ธนาคารที่ดิน” โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่ 5 ชุมชน ณ ศาลาประชาคมหมู่บ้านแพะใต้ หมู่ที่ 7 ชุมชนบ้านแพะใต้ อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน โดยมีชาวบ้านชุมชนบ้านแพะใต้และตัวแทนราษฎรที่ได้รับที่ดินทำกินจากอีก 4 ชุมชน กว่า 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้ได้มีการมอบหนังสืออนุญาตใช้พื้นที่ชั่วคราวให้กับตัวแทนชาวบ้าน 5 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนบ้านไร่ดง หมู่ที่ 3 (บ้านใหม่ป่าฝาง หมู่ที่ 15) ตำบลน้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ชุมชนบ้านแม่อาว หมู่ที่ 3 ตำบลนครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ชุมชนบ้านแพะใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลหนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ชุมชนบ้านท่ากอม่วง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลาสะวาย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน และชุมชนบ้านโป่ง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน เป็นโครงการที่ บจธ. ลงมาให้ความช่วยเหลือประชาชนใน 5 ชุมชน ที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกินมาเป็นเวลานาน

นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดเผยว่า ชุมชนทั้ง 5 ชุมชนดังกล่าวนั้นเป็นชุมชนที่เกษตรกรประสบกับปัญหาความขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมกับนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการออกโฉนดชุมชน และการจัดตั้งธนาคารที่ดิน เพื่อให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน เกษตรกรและผู้ไร้ที่ดินทำกิน ได้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ดังนั้นเมื่อทางรัฐบาลได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน

โดยมีภารกิจหลักในการจัดตั้งธนาคารที่ดิน เพื่อให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน เกษตรกรและผู้ไร้ที่ดินทำกิน ทาง บจธ. จึงได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือโดยตั้งเป็น โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหานั้นทาง บจธ. จะเข้ามาเจรจาจัดซื้อที่ดินจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ เพื่อนำมาจัดสรรให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน โดยเกษตรกรในแต่ละชุมชนจะต้องตั้งตั้งสหกรณ์ของตนเองขึ้นมาและจัดสรรที่ดินทำกินให้กับสมาชิก

โดยมีเงื่อนไขว่าที่ดินดังกล่าวสมาชิกของสหกรณ์สามารถทำกินเป็นมรดกตกทอดได้ แต่ไม่สามารถซื้อขายหรือเปลี่ยนมือได้ โดยทาง บจธ. นั้นจะให้สหกรณ์เช่าซื้อที่ดินระยะยาว ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี ภายในระยะเวลาการผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี

ทั้งนี้ปัจจุบัน ขณะนี้ชุมชน ทั้ง 5 ชุมชน ได้จัดตั้งสหกรณ์รองรับเรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 4 สหกรณ์ คือ บ้านแพะใต้ จัดตั้ง สหกรณ์โฉนดชุมชนบ้านแพะใต้ จำกัด บ้านท่ากองม่วง จัดตั้ง สหกรณ์โฉนดชุมชนบ้านท่ากอม่วง จำกัด บ้านโป่ง จัดตั้งสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน จำกัด ส่วนบ้านไร่ดงไปสมัครเป็นสมาชิกของสหกรณ์ของบ้านแม่อาว คือ สหกรณ์การเกษตรโฉนดชุมชนบ้านป่าซาง จำกัด

สำหรับความคืบหน้าในการจัดซื้อที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ทั้งหมด ประมาณ 809 ไร่ (278 แปลง) ทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว 639 ไร่ (153 แปลง) ใช้งบประมาณในการจัดซื้อประมาณ 109 ล้านบาท ที่เหลืออีก 170 ไร่ อยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนพื้นที่ในชุมชนบ้านไร่ดงและชุมชนบ้านอาว อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้อนุญาตให้สหกรณ์เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินเรียบร้อยแล้ว

นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ กล่าวอีกว่า ในอนาคตเมื่อก่อตั้งธนาคารที่ดินเป็นที่คาดหวังกันว่า จะเป็นองค์กรที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินได้มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ช่วยลดปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินอันเนื่องมาจากการจำนองและการขายฝาก ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความเลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในการถือครองที่ดิน และทำให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินสูงสุดและเป็นไปตามศักยภาพ

ร่วมแสดงความคิดเห็น