พาณิชย์เชียงใหม่ชวนร้านค้าปลีก ร่วม “โครงการร้านค้าประชารัฐ”

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนร้านค้าปลีก ร่วม “โครงการร้านค้าประชารัฐ” เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้ซื้อสินค้าที่ถูกกว่าราคาปกติ โดยหวังให้กระจายครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ พร้อมรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะเริ่มใช้ใน 1 ตุลาคมนี้

นางนิยดา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน จัดจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพราคาพิเศษในร้านค้าปลีกภายใต้โครงการ “ร้านค้าประชารัฐ” ซึ่งผู้ประกอบการจะจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา และสินค้าวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้ได้ซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติ โดยจะให้กระจายครอบคลุมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ได้รับสิทธิ์ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากกรมบัญชีกลาง จำนวน 362,258 ราย จำนวน 25 อำเภอ 204 ตำบล โดยต้องมีร้านค้าประชารัฐสำหรับให้บริการแก่ผู้มีสิทธิ์ใช้บัตรฯ จำวน 604 ร้านค้า รองรับผู้มีรายได้น้อย 500 – 600 คน/เดือน ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าปลีก (โชว์ห่วย) สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และแจ้งความประสงค์ติดตั้งเครื่อง EDC จำนวนกว่า 200 ร้านค้าแล้ว (จาก24 อำเภอ / 106 ตำบล)

สำหรับ กรณีผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและต้องการอุทธรณ์ สามารถขออุทธรณ์ให้ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยปฏิบัติตาม 7 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบผลผ่าน 3 ช่องทางที่ได้กล่าวไปแล้ว และหากพบว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน ขั้นตอนที่ 2 บนหน้าจอแสดงผลจะระบุคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน และหากผู้ลงทะเบียนต้องการอุทธรณ์ ให้กดปุ่ม “ยื่นคำขออุทธรณ์” ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขออุทธรณ์ โดยหลังจากกดปุ่ม ยื่นอุทธรณ์ ระบบจะถามวันเดือนปีเกิด เพื่อยืนยันตัวบุคคล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นให้กดปุ่มสีเหลืองด้านล่างของหน้าจอที่เขียนว่า “บันทึกและส่งคำขออุทธรณ์” ขั้นตอนที่ 4 หลังจากกดปุ่มบันทึกและส่งคำขออุทธรณ์แล้ว ข้อความบนปุ่มสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็น “อยู่ระหว่างการอุทธรณ์” ขั้นตอนที่ 5 หลังจากปิดรับการยื่นขออุทธรณ์ กระทรวงการคลังจะรวบรวมข้อมูล ส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติตามคำขออุทธรณ์ต่อไป ขั้นตอนที่ 6 หน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ และส่งผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2560 และขั้นตอนที่ 7 กระทรวงการคลังประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ผ่าน 2 ช่องทางเท่านั้น ได้แก่ www.epayment.go.th และสายด่วน 6 หน่วยงาน หากผลการอุทธรณ์ยืนตามผลครั้งแรกคือไม่ผ่าน ผู้ยื่นอุทธรณ์จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการ

อย่างไรก็ตาม หากผู้อุทธรณ์ยังมีข้อสงสัยในผลการอุทธรณ์ ให้ติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ๆ โดยตรง แต่หากผลการอุทธรณ์ปรากฏว่าผ่านคุณสมบัติ ผู้ยื่นอุทธรณ์จะได้รับบัตรฯ ต่อไป สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีสิทธิได้รับบัตรฯ สามารถไปรับบัตรฯ ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป การให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมี 2 หมวด ได้แก่ หมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย 1) วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และหมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย 1) วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3) วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center ของบัตรฯ ได้ที่ 02-109-2345 จำนวน 150 คู่สาย วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น. หรือติดต่อโดยตรงที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น