คืบหน้ามิจฉาชีพปลอมเฟซ อดีตอาจารย์ ร.ร.บ้านกาด ทักแชทเฟซบุ๊ก หลอกตุ๋นเงินเหยื่อ

เชียงใหม่ คืบหน้ามิจฉาชีพปลอมเฟส อดีตอาจารย์ ร.ร.บ้านกาด ทักแชทไล่ยืมเงินคนสนิท มีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ 20,000 บาท โร่เข้าแจ้งความ

ล่าสุดตำรวจแกะรอย พบเจ้าของบัญชีแล้ว แต่กลับเป็นอีกหนึ่งในเหยื่อที่ถูกหลอกว่าจ้างให้เปิดบัญชีเท่านั้น ส่วนตัวคนร้ายคนสำคัญ เบื้องหลังยังลอยนวล โดยทาง จนท. ตำรวจเร่งตรวจสอบเบอร์โทรที่มีการโอนเงินเข้า คาดจะทราบชื่อเจ้าของในไม่ช้านี้ ก่อนทำการสืบติดตามจับกุมตัวคนร้าย

จากกรณีที่ทางผู้สื่อข่าวได้นำเสนอเรื่องราวกรณีที่มีมิจฉาชีพ ทำการปลอมแปลงเฟซบุ๊กของ อดีตอาจารย์โรงเรียนบ้านกาด ระดับรอง ผอ.โรงเรียนชื่อ นายประดิษฐ์ ศรีอุทัย และได้ทำการนำเฟซบุ๊กดังกล่าว ส่งข้อความหลอกยืมเงินคนรู้จักหลายราย และมีผู้ตกเป็นเหยื่อ และได้โอนเงินจำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีให้กับมิจฉาชีพรายนี้ ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความกับทาง จนท.ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อให้ติดตามสืบหาตัวคนร้าย

จนกระทั่งในเวลาต่อมาทราบว่า เงินที่ถูกโอนไปเข้าบัญชีของผู้ใช้ชื่อว่า “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” ซึ่งทาง จนท.ได้ตามสืบจนกระทั่งเจอตัว แต่กลับกลายเป็นบุคคลที่ตกเป็นเครื่องมือ ในการก่อเหตุของมิจฉาชีพรายนี้ โดยได้ติดต่อกับ นายสาโรจน์ ผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นกัน และได้ชักชวนให้ทำการเปิดบัญชีโดยมีค่าจ้าง 500 บาท เมื่อมีเงินเข้ามาก็ให้กดเงินไปซื้อบัตรเติมเงินออนไลน์ แล้วส่งทางไปรษณีย์ไปให้กับมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบตัวการมิจฉาชีพที่ก่อเหตุรายนี้ และทาง จนท.ยังคงดำเนินการเร่งสืบสวนติดตามตัวคนร้ายอยู่นั้น

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 14:00 น. วันที่ 22 ก.ย.60 ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.อ.วิชเยนทร์ วงษ์เทพ พงส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้รับเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทาง จนท.ได้ทำการสืบสวนติดตามเบาะแส จนกระทั่งพบเจ้าของบัญชีที่โอนเงินเข้า ซึ่งเป็นบัญชีของ “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” และได้ทำการติดต่อกับทางเจ้าของบัญชี และจากการสอบสวนทางเจ้าตัวก็ได้ให้ความร่วมมือดี

โดยจากการสอบสวนก็ได้ยอมรับว่า บัญชีที่เปิดขึ้นมานั้นเป็นบัญชีของ “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” จริง และได้เป็นคนถอนเงินที่ถูกถอนเข้ามาในบัญชีจริง ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าตัวถึงเงินที่ถูกโอนเข้ามา ทางเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเงินของใคร และบอกกับทาง จนท.ตำรวจว่าได้มีคนทักเข้ามาทางแชทเฟซบุ๊ก ในลักษณะชวนให้ทำงานออนไลน์ โดยมีค่าจ้างครั้งละ 300-500 บาท ซึ่งหลังจากเห็นข้อความดังกล่าว ก็เกิดความสนใจ โดยทางผู้ที่แชทเฟซบุ๊กมา ให้ทาง “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” ไปเปิดบัญชีในชื่อของตัวเอง

ขณะเดียวกันก็ลวงว่างานที่ให้ทำนี้เป็นงานของทรู ที่จะมีลูกค้าโอนเงินเข้ามาในบัญชีที่ได้ทำการเปิดไว้ โดยจะให้เจ้าตัวส่งเลขบัญชีที่เปิดไว้ และเลขบัตรประชาชนมาให้ก่อน จากนั้นก็จะมีเงินผ่านเข้ามาในบัญชี และจากนั้นก็แค่มีหน้าที่ไปถอนเงินออกมาจากบัญชี ซึ่งเมื่อมีเงินเข้ามาแล้วมิจฉาชีพรายนี้ ก็จะแจ้งให้ทราบว่ามีเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีแล้ว อย่างเช่นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่เข้าแจ้งความครั้งนี้ ได้โอนเงินเข้าบัญชีไป 20,000 บาท ก็จะให้ทาง “นายสาโรจน์ มา ลาทิพย์” ไปถอนเงินแล้วหักค่าจ้าง 500 บาท

ส่วนเงินที่เหลือ 19,500 บาท ก็ให้ทำการโอนเข้าทางมิจฉาชีพคนดังกล่าว และนอกจากนี้จากการตรวจสอบตอนนี้ ก็พบว่ามีผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาให้ดูว่าบัญชีของ “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” ได้ไปหลอกคนหลายคนแล้ว เนื่องจากทางเจ้าตัวก็บอกว่ามีคนโทรมาหาและสอบถามหลายคนแล้ว รวมทั้งทาง จนท.ตำรวจในช่วงที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าตัวก็ได้ให้ความร่วมมือนำใบเสร็จและหลักฐานมาแสดงให้ดูว่า ได้มีการทำการโอนจริง

อย่างไรก็ตามในส่วนของ “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” ได้มีการแสดงความบริสุทธิ์ โดยทาง จนท.ตำรวจก็ได้แนะนำให้ทางฝั่งเจ้าตัวไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนความคืบหน้าล่าสุดทาง จนท.ตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบไปที่เบอร์หมายเลขที่ทาง “นายสาโรจน์ มาลาทิพย์” ได้โอนเงินไปแล้ว

ซึ่งทางเจ้าตัวอ้างว่ามีเบอร์ของทรูมันนี่ด้วยกัน จำนวน 2 เบอร์ ที่ได้ทำการโอนเงินไป ซึ่งก็ได้มีการส่งหลักฐานการโอนมาให้ทาง จนท.ทำการตรวจสอบเช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อของผู้ใช้หมายเลขนี้ เนื่องจากว่าต้องให้ทางบริษัทเป็นผู้ตรวจสอบ แต่ทางบริษัทก็แจ้งมายัง จนท.ตำรวจแล้วว่า กำลังเร่งทำการตรวจสอบให้ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางตำรวจและผู้เสียหายทราบด้วย เนื่องจากทางผู้เสียหายก็มีอีเมลล์ของทรูมันนี่ เก็บไว้เป็นหลักฐานอยู่ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง และในช่วงสัปดาห์หน้า ก็จะได้ทำการประสานไปยังบริษัทอีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น