ไทยเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ เร่งยกระดับสินค้าเกษตร

ก.เกษตรและสหกรณ์ จัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ครั้งที่ 39 ที่จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งสานต่อแผนงานโครงการเพื่อความยั่งยืนภาคเกษตรและป่าไม้ หวังกระตุ้นนักลงทุนและผู้ประกอบการลงทุนในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น เผยผลการประชุมสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ เห็นชอบร่วมกันในการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการทําการเกษตรอย่างยั่งยืนในภูมิภาค รับรองการกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยพืช พร้อมเดินหน้านโยบายประมงอาเซียน ตั้งเป้าสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับภูมิภาคและของโลก

เมื่อวันที่ผ่านมา พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ครั้งที่ 39พร้อมนำคณะจากชาติอาเซียนที่เข้าร่วมประชุม ชมนิทรรศการ “เกษตรยั่งยืนแห่งภูมิภาคอาเซียน” ที่นำผลสำเร็จของหน่วยงานด้านการเกษตรและป่าไม้ นำเสนอผ่านนิทรรศการที่มีชีวิต ซึ่งถือเป็นก้าวหนึ่งสู่ความยั่งยืนของการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน ณ โรงแรมแชงกรี-ล่า เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ เป็นการประชุมประจำปีของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านการเกษตร และป่าไม้ ของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่บรูไน อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม โดยจะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 25-30 กันยายน ที่ผ่านมา สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ จะเป็นการติดตามผลการดำเนินงานกำหนดนโยบาย รวมถึงแนวทางการดำเนินโครงการ ให้ความเห็นชอบมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรต่าง ๆ ในสาขาเกษตรและป่าไม้ เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนนำไปปรับใช้ภายในประเทศ จะมีความเชื่อมโยงและสนับสนุนนโยบายอาเซียนในการเป็นภูมิภาคที่มีสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยเพียงพอ มีความเป็นเอกภาพ ทั้งด้านการผลิตและการค้า และปรับตัวได้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก นอกจากนี้ ประเทศไทยยังใช้โอกาสนี้ เทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงงานด้านการเกษตร จนทำให้ภาคการเกษตรของประเทศไทยมีการพัฒนาและมีความก้าวหน้า สามารถนำพาเกษตรกรไทย ให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ด้าน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ สมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ได้เห็นชอบร่วมกันในการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อการทําการเกษตรอย่างยั่งยืนในภูมิภาค โดยได้มีมติเห็นชอบรับรองการกำหนด มาตรการด้านสุขอนามัยพืช ให้เป็นแนวทางเดียวกันในอาเซียนมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรฐานพืชสวนอาเซียนเพิ่มเติมอีก 4 ชนิด คือ ข้าวโพดฝักอ่อน ถั่วแขก เห็ดหูหนูและมันเทศ จากในปัจจุบันดำเนินการแล้ว 51 รายการ การกำหนดค่าสารพิษตกค้างสูงสุดของอาเซียนเพิ่มเติม 7 ชนิด รวมถึงเห็นชอบการขับเคลื่อนนโยบายประมงอาเซียนที่ประเทศไทย ได้เสนอในการประชุมปี 2559 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในปีนี้เป็นการต่อยอดประชุมเพื่อหารือการศึกษากรอบแนวทางหลักเกณฑ์นโยบายประมงอาเซียน โดยจะใช้กลไกคณะทำงานด้านประมงอาเซียนคณะพิเศษ ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการผลักดันให้ประเทศภูมิภาคอาเซียนให้ความสำคัญกับการทำประมงยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศคู่ค้าสินค้าประมงในกลุ่มอาเซียนที่เป็นแหล่งผลิตและส่งออกสินค้าประมงที่สำคัญของโลก จึงจำเป็นต้องมีความร่วมมือกันอย่างจริงจังในการพัฒนาความร่วมมือด้านการประมงของอาเซียนให้การทำประมงของอาเซียนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับภูมิภาคและของโลก ตามเจตนารมณ์ของอาเซียน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ด้านผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หรืออาเซียนบวกสาม ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานร่วมกัน โดยรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามความตกลงของการสำรองข้าวฉุกเฉินของประเทศอาเซียนบวกสาม และสนับสนุนการระบายข้าวแบบให้เปล่าโดยประเทศสมาชิกจะบริจาคเป็นข้าวสารหรือเงินสดต่อไป นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้เริ่มดำเนินงานภายใต้การทำสัญญาซื้อขายข้าวล่วงหน้าด้วย

ขณะเดียวกันรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมืออาเซียนบวก 3 ด้านอาหารการเกษตรและป่าไม้ปี 2559 – 2568 เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือด้านอาหาร การเกษตร และป่าไม้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารส่งเสริมการบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและป่าไม้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนปี 2568 รวมถึงเห็นชอบให้การจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 40 และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 18 ที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปี 2018 อีกด้วย พลเอกฉัตรชัย กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น