ททท.เชียงใหม่ จัดประชุมวางมาตรการ แก้ไขปัญหาขายทัวร์ออนไลน์ ต่ำกว่าราคาทุน

ททท.เชียงใหม่ จัดประชุมวางมาตรการ แก้ไขปัญหาขายทัวร์ออนไลน์ต่ำกว่าราคาทุน หลังทางผู้ประกอบการในพื้นที่หลายราย ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมเชิญชมรมผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวออนไล์ที่ กทม. เข้าร่วมเพื่อให้คำแนะนำและถอดบทเรียน ในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกทางและมีประสิทธิภาพ เผยต้องมีการสั่งห้ามและบทลงโทษกับเว็บไซค์ ที่กระทำผิดอย่างจริงจัง

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ต.ค.60 ที่ห้องประชุม ททท.สำนักงานเชียงใหม่ นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับ จนท.เกี่ยว ข้องทุกฝ่าย เพื่อรับฟังแนวทาง และมาตรการในการแก้ไขปัญหา ขายทัวร์ออนไลน์ต่ำกว่าราคาทุน ซึ่งสืบเนื่องจากในปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของสินค้าและบริการท่องเที่ยว ที่เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ประสบปัญหา Online Travel (OTA) ของจีน ขายสินค้าและบริการที่ต่ำกว่าทุน

เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มราคาหุ้นของบริษัท โดยบางบริษัทยอมรับผลการขาดทุนทางบัญชี เพื่อแลกกับการดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก ให้เข้ามาทำ Booking ผ่าน website ของบริษัท หวังสร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง OTA รายใหม่ๆ หวังเพิ่มจำนวน Traffic บนเว็บไซค์ เพื่อปรับปรุง Ranking ในระบบ Search on top ให้กับบริษัท เพื่อเก็บค่าโฆษณาและนำฐานข้อมูลลูกค้าที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ที่มีมูลค่ามากกว่า

ซึ่งผลกระทบของการขายสินค้าและบริการต่ำกว่าราคาทุน ทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าและการบริการ เสียไปจากการขายออนไลน์ในราคาถูก และทำลายกลไกการแข่งขันทางการตลาด กล่าวคือ OTA ของไทยได้รับผลกระทบไม่สามารถต่อสู้ในเรื่องราคาได้ รวมทั้งผู้ประกอบการในตลาด ไม่สามารถปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากลูกค้าเคยชินกับการซื้อสินค้าและบริการราคาต่ำกว่าทุน

โดยทาง นายสันติ ชุดินธรา รองผู้ว่าการฯ เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเชิญทางผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ที่ กทม. ซึ่งได้รวมตัวกันในการหาทางออกและแก้ไขปัญหาการขายตั๋ว หรือบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศจีนผ่านทางออนไลน์ ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น โดยทางชมรมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยที่รวมตัวกันใน กทม. นั้น สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ค่อนข้างดี จึงได้มีการเชิญชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ที่ กทม. มาร่วมการประชุมและพูดคุยหารือรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นกับทางผู้ประกอบการใน จ.เชียงใหม่ เพื่อให้สามารถปรึกษาหารือและให้คำแนะนำ แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ซึ่งในส่วนของมาตรการเบื้องต้น ที่ควรดำเนินการแก้ไขหากพบเจอเว็บไซต์ที่กระทำความผิด ก็จะมีการตักเตือนก่อนให้เจ้าของเว็บไซค์ดังกล่าว ดำเนินการแก้ไขทันที และหากตรวจพบว่ายังเหมือนเดิมไม่มีการแก้ไข ก็จะสั่งห้ามไม่ให้มีการใช้บริการ ซึ่งเป็นมาตรการเด็ดขาดที่สามารถต่อรองได้กับทางเว็บไซค์อื่นๆ ที่มีการกระทำผิดในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ โดยมาตรการดังกล่าวก็ได้นำมาใช้กับทาง กทม. และพัทยาอยู่
ขณะเดียวกันในการดำเนินการนั้น ทางผู้ประกอบการใน จ.เชียงใหม่ จะต้องร่วมหารือและตกลงกันด้วยว่า จะต้องห้ามขายหรือติดต่อกับเว็บไซค์เหล่านี้เด็ดขาด หากพบว่ามีการขายตั๋วหรือบัตรเข้าชมสถานที่ ที่ถูกกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้ประกอบการนั้นมีอำนาจในการต่อรอง ซึ่งเป็นมาตรการที่ทางชมรมออนไลน์ใน กทม.กำลังทำกันอยู่

ร่วมแสดงความคิดเห็น