มช. สร้างเครื่องต้นแบบระดับโรงงานผลิตแคโรทีนอยด์เข้มข้นจากน้ำมันปาล์มดิบ

มช. สร้างเครื่องต้นแบบระดับโรงงาน ผลิตแคโรทีนอยด์เข้มข้นจากน้ำมันปาล์มดิบ ช่วยเหลือเกษตรกร ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มให้น้ำมันปาล์มดิบ

รองศาสตราจารย์ ดร. พัชรินทร์ ระวียัน คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า น้ำมันปาล์มเป็นน้ำมันที่นิยมใช้ในการทอดอาหาร มีการใช้ถึงประมาณ 70% ของน้ำมันบริโภคทั้งหมด น้ำมันปาล์มผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบซึ่งมีสีส้มแดงของสารแคโรทีนอยด์ที่เป็นองค์ประกอบ กระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มต้องทำการกำจัดแคโรทีนอยด์ออก เพื่อให้น้ำมันมีสีอ่อนใส การกำจัดแคโรทีนอยด์ทำให้คุณค่าของน้ำมันปาล์มลดลงอย่างมาก เนื่องจากแคโรทีนอยด์เป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ประเทศไทยต้องนำเข้าแคโรทีนอยด์จากต่างประเทศ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยาและเครื่องสำอาง

แคโรทีนอยด์ที่มีบีตาแคโรทีนเป็นองค์ประกอบสูง มีราคากิโลกรัมละหลายหมื่นบาท หากนำน้ำมันปาล์มดิบมาแยกแคโรทีนอยด์ออก ก่อนที่จะนำไปผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค หรือไบโอดีเซล จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้น้ำมันปาล์มดิบที่สูงมาก อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีการผลิตแคโรทีนอยด์ยังเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงจากต่างประเทศ เครื่องผลิตมีความซับซ้อน จึงไม่เหมาะกับภาคการผลิตของประเทศไทย

โครงการวิจัยการสร้างเครื่องต้นแบบระดับโรงงานเพื่อผลิตแคโรทีนอยด์เข้มข้นจากน้ำมันปาล์มดิบ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โดยเครื่องต้นแบบตั้งอยู่ที่บริเวณที่ศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เครื่องต้นแบบระดับโรงงานที่สร้างขึ้น ได้พัฒนามาจากเครื่องต้นแบบระดับห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ โดยทำการออกแบบให้ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่จำหน่ายหรือสร้างได้ภายในประเทศ สามารถซ่อมบำรุงได้โดยช่างเทคนิคในท้องถิ่น มีกำลังผลิตครั้งละ 100 กิโลกรัม สามารถผลิตแคโรทีนอยด์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ไขมันที่เหลือจากการสกัดแคโรทีนอยด์สามารถนำไปผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค หรือไบโอดีเซลต่อไปได้

การผลิตแคโรทีนอยด์โดยใช้เครื่องสกัดและเทคโนโลยีที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้การทำสวนปาล์มน้ำมันมีความยั่งยืนแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น