เชียงใหม่แถลงข่าวจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ไร้แอลกอฮอล์”

เชียงใหม่แถลงข่าวจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ไร้แอลกอฮอล์ รณรงค์ให้ประชาชนชาวเชียงใหม่เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมสืบสานวัฒนธรรมของชาวล้านนา คาดปีนี้ยอดนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก พร้อมขอความร่วมมือในการจุดโคมลอยให้เป็นไปตามประกาศจังหวัด และเล่นประทัดยักษ์ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ตลอดในพื้นที่การจัดงาน

เมื่อเวลา 18:30 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม รอง ผบ.มทบ.33 , พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บุญประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , นายไพรัช ใหม่ชมภู รอง นายก อบจ.เชียงใหม่ , นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ,นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.สนง.เชียงใหม่ , นางสิริยา บุญศิริพฤกษ์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ นายมานพ แย้มอุทัย ตัวแทนจาก สสส.และเครือข่ายงดเหล้าเชียงใหม่ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560” ภายใต้แนวคิด แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ ไร้แอลกอฮอล์ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560ที่จะถึงนี้ ณ ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาทุกคนต่างอยู่ในห้วงแห่งความวิปโยค จากการสูญเสียและอาลัย ในหลวงรัชกาลที่ 9 และในปีก่อนทางจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้จัดงานในรูปแบบการแสดงความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แต่ในปีนี้เราผ่านครบ 1 ปีแล้ว แม้ว่าทุกคนจะยังคงไม่คลายจากความรู้สึกอาลัยและโศกเศร้า แต่เราก็ต้องผ่านมันไปด้วยกัน เนื่องจากในวันนี้เปิดวันแรกแห่งการเฉลิมฉลองรัชกาลใหม่ และการจัดงานประเพณียี่เป็งของเชียงใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็จะกลับมามีสีสันและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมประเพณีล้านนาเชียงใหม่อีกครั้ง ในรูปแบบย้อนยุคที่มีกลิ่นอายความเป็นล้านนาเพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศด้วยความภาคภูมิใจเต็มที่ รวมทั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาให้คงอยู่สืบไป

โดยคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยว มาท่องเที่ยวภายในงานประเพณียี่เป็งครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน ซึ่งทางจังหวัดอยากฝากประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน และขอความร่วมมือกับทางประชาชนและนักท่องเที่ยวในเรื่องอันตรายที่อาจเกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย รวมทั้งช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการจัดงาน โดยในส่วนการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควันนั้น จะสามารถกระทำได้ในช่วงลอยกระทง (กระทงเล็ก) วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 โดยสามารถจุดและปล่อยโคมได้ตั้งแต่เวลา 19:00 – 01:00 น. ของวันถัดไป ทางด้าน นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการจัดงานในปีนี้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ที่ใกล้จะถึงนี้ โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดแล้วนั้นจะมีการนั่งรถรางเพื่อชมความสวยงามของสีสันในตัวเมืองเชียงใหม่ที่ได้ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และในวันที่ 4 พฤศจิกายน นั้นก็จะมีขบวนแห่ของกระทงใหญ่ โดยจะแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มาที่ไม่มีขบวนกระทงเล็ก ซึ่งในปีนี้มีอยู่ประมาณ 20 กว่าขบวน

ส่วนกิจกรรมภายในงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ปีนี้ มีกิจกรรมอาทิ ต๋ามผางปะตี๊ดส่งฟ้าฮักษาเมือง , ฟ้อนบูชาผางปะตี๊ด จำนวน 300 คน ,การจุดผางปะตี๊ดรอบคูเมือง ,จุดผางปะตี๊ดถวายเป็นพุทธบูชา สืบฮีต สานฮอย ฮอมปอย ไหว้สาพระสิริมังคลาจารย์ ,การแสดงศิลปวัฒนธรรม สี่แจ่งเมือง โดยมีเวทีบนบก 3 เวที และเวที ลอยน้ำ 1 เวที ,การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่,การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2560 กิจกรรมสืบฮีตสานฮอยวัฒนธรรมทั่วเมืองเชียงใหม่ นอกจากนี้ภายในงานจะยังมีการจัดตกแต่งโคมไฟสีสันยี่เป็งเพื่อเติมแต่งแสง สี แห่งรัตติกาลยามค่ำคืนของเมืองเชียงใหม่ ให้สว่างไสวต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้

ขณะที่ทางด้าน นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.สนง.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณียี่เป็งถือเป็นงานยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการเฉลี่ยรายได้ที่จะเข้ามาในจังหวัดจากนักท่องเที่ยวที่ประเมินต่อคน ประมาณ 4,000-4,500 บาท ซึ่งน่าจะได้เม็ดเงินเข้าจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงของการจัดงานเทศกาลลอยกระทงนี้ประมาณ 400-450 ล้านบาท และในเรื่องของยอดจองห้องพักนั้นเนื่องจากยังพอมีเวลาที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาได้ ซึ่งจากการตรวจเช็คยอดจองห้องพักจากทางสมาคมโรงแรมไทยพบว่าเฉลี่ยยอดจองห้องพักอยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้ค่าเฉลี่ยดังกล่าวน่าจะเพิ่มขึ้นสูงถึงประมาณ 85-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับยอดรวมการท่องเที่ยวของปีที่ผ่านมาพบว่าปริมาณของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่มากกว่า และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี

ร่วมแสดงความคิดเห็น