ตำรวจดอยเต่ารวบ 2 วัยรุ่นยกพวกถล่มคู่อริในโรงพยาบาล เผยเหลืออีก 3 คน กำลังอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม

จากกรณี เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากรุมทำร้ายคู่อริในบริเวณโรงพยาบาลดอยเต่า อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 00:30 น. ของคืนวันที่ 6 พ.ย. 60 จนทำให้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น อีกทั้งผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและญาติที่เฝ้าไข้ตื่นตกใจไปด้วย และกว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้กลับสู่ปกติได้นั้นก็กินเวลานานหลายชั่วโมง จนถึงเสลาประมาณ 03.00 น. ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย เวลาประมาณ 14:00 น. วันที่ 7 พ.ย.60 พันตำรวจโทอาชวพล สุขสมเพียร รองผู้กำกับการ (สอบสวน) รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอยเต่า ประชุมร่วมกับ ว่าที่ร้อยตรีบำรุงเกียรติ วินัยพานิช นายอำเภอดอยเต่า และผู้นำท้องถิ่น เพื่อวางมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ทั้งนี้พันตำรวจโทอาชวพล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าวได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายในบริเวณโรงพยาบาลดอยเต่า อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งล่าสุดสามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้เบื้องต้นจำนวน 2 คน ได้แก่ นายศราวุธ คำปัน อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 227 หมู่ 5 ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ และนายณัฐวุฒิ วรรณ์ดี อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 277 หมู่ 7 ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”

นอกจากนี้จากการสืบสวนทราบว่ายังมีผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดอีก 3 คน ได้แก่ นายดวงเจริญ หน่องดอก อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 217 หมู่ 7 ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่, นายชาตรี คำแก้ว อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 69 หมู่ 5 ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ และนายเข็ม มาคำ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 21 หมู่ 3 ตำบลบงตัน อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังเร่งสืบสวนและติดตามจับกุมตัวนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ทำหน้าที่ห้ามปรามหรือระงับเหตุนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าว ชี้แจงว่า ในช่วงขณะที่เกิดเหตุนั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียงลำพัง จึงพยายามควบคุมดูแลเหตุการณ์อย่างเต็มความสามารถที่สุดด้วยการกั้นไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าไปยุ่งเกี่ยวอุปกรณ์การแพทย์ ทั้งมีด กรรไกร หรือเข็มฉีดยา ที่อยู่ในจุดห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เพราะประเมินแล้วว่าหากมีการหยิบหรือคว้าไปจะยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลาย ประกอบกับวัยรุ่นในเหตุการณ์ดังกล่าวมีกันเป็นจำนวนมาก จึงทำได้ดีที่สุดเพียงแค่การตะโกนห้ามปรามและควบคุมดูแลอุปกรณ์การแพทย์เท่านั้น โดยได้ทำรายงานเหตุการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น