ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ออกชี้แจงไม่เคยให้การสนับสนุน ทำบุญตักบาตรพระธุดงค์ “ธรรมะห่มดอย”บนยอดดอยม่อนจอง

ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ออกชี้แจง กรณีผู้โพสภาพและข้อความ เชิญชวนนักบุญผู้ใจแกร่งขึ้นดอยทำบุญตักบาตรพระธุดงค์ “ธรรมะห่มดอย”บนยอดดอยม่อนจอง เผยไม่เคยให้การสนับสนุน ตามที่ปรากฎ พร้อมเร่งดำเนินการตรวจสอบเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ สอบข้อเท็จจริง

จากกรณีที่สมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งซึ่งใช้ชื่อว่า “อรุณเมธี พุทธิภัทรานันท์” ได้โพสต์ภาพและข้อความ ในเชิงประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ หรือเข้าร่วมโครงการ โดยมีการระบุข้อความในโพสต์ดังกล่าวว่า “เชิญนักบุญผู้ใจแกร่งขึ้นดอย..ทำบุญตักบาตรพระธุดงค์ “ธรรมะห่มดอย” บนยอดดอยม่อนจอง….ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกบนยอดดอยสูง ครั้งหนึ่งในชีวิตทำบุญตักบาตรพระธุดงค์ธรรมะห่มดอย เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เนื่องจากวันที่ 5 ธันวาคมเป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคนไทยเรา เพราะมีความสำคัญคือ เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิ พลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร , เป็นวันชาติ และ เป็นวันพ่อแห่งชาติ ดังนั้นในวันที่ 5 ธันวาคม 2560 นี้ เวลา 09.09 น. ณ ดอยม่อนจอง ตำบลม่อนจอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ จะมีพระธุดงค์ จำนวน 209 รูป เดินธุดงค์ 329 กม. 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ (แม่ฮ่องสอน, ตาก, เชียงใหม่) มาเป็นเนื้อนาบุญให้กับผู้ใจบุญทุกท่าน และได้กำหนดว่า หากใครต้องการตักบาตรต้องขึ้นไปนอนบนดอยม่อนจอง ตั้งแต่เย็นวันที่ 4 ธันวาคม 2560 ดำเนินการโดย : สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, ไร่ภูวิมาน, องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย, มูลนิธิธรรมะห่มดอย, วัดศรีโสดา พระอารามหลวง,วัดวิเวกวนาราม, โครงการพระธรรมจาริก, พุทธศาสนิกชนตำบลแม่ตื่น ตำบลม่อนจอง,ศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง” ซึ่งในการโพสต์ภาพและข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้มีประชาชนและผู้ทราบข้อมูลเกิดความสนใจกับการโพสต์เรื่องราวดังกล่าว

แต่ล่าสุดวันนี้ (20 พฤศจิกายน 2560) เวลาประมาณ 10.30 น. ทางนายสมหวัง เรืองนิวัติศัย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยได้มีการสั่งการให้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ตรวจสอบเกี่ยวกับข้อมูลของโพสต์ดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพเก่าที่เคยมีพระกลุ่มหนึ่งทำการเดินขึ้นดอยม่อนจอง โดยการลักลอบใช้เส้นทางป่าที่มิใช่เส้นทางปกติในการเดินเพื่อหลบหลีกด่านและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเนื่องจากพระกลุ่มนี้ทราบดีว่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ได้เข้านมัสการชี้แจงทำความเข้าใจกับวัดในพื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า การดำเนินการเช่นนี้ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง และขออย่าให้มีการดำเนินกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวอีก

และขณะเดียวกัน ภาพที่ปรากฏในสื่อตามที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งได้มีการแอบอ้างชื่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ว่าได้รับรู้รับทราบและให้การสนับสนุนนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ไม่เคยได้รับการติดต่อประสานในเรื่องดังกล่าว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ก็ได้เคยชี้แจงให้วัดในพื้นที่ได้ทราบแนวทางต่อกรณีดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ได้ประสานสอบถามไปยังนายกองค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง และผู้ใหญ่บ้านมูเซอ ในฐานะผู้จัดการศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง ต่อกรณีที่ในภาพถ่ายที่ปรากฎการอ้างชื่อหน่วยงานดังกล่าวว่าให้การสนับสนุนการจัดงาน ซึ่งภายหลังทั้ง นายก อบต.ม่อนจอง และผู้ใหญ่บ้านมูเซอ ได้ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับแจ้งหรือประสานจากพระหรือวัดใดใดในเรื่องการจัดกิจกรรมดังกล่าวตามที่ปรากฎออกมา ทั้งนี้ ทั้ง อบต.ม่อนจอง และศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจองก็ไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ขอเรียนว่าจะได้ประสานวัดศรีโสดา ซึ่งเป็นวัดที่ปรากฏชื่อในภาพว่าร่วมในการจัดกิจกรรม และวัดจอมหมอก ในฐานะเป็นวัดในพื้นที่ที่จะเป็นที่พักแรมของคณะที่จะจัดกิจกรรม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และทำความเข้าใจเหตุผลความจำเป็นและระเบียบข้อกฎหมายในการดำเนินกิจกรรมใดใดในเขตพื้นที่อนุรักษ์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อยที่ไม่สนับสนุนและหรืออนุญาตให้มีการดำเนินการดังกล่าวในพื้นที่แต่อย่างใด โดยผลความคืบหน้าเป็นประการใดจะได้รายงานมาเพื่อโปรดทราบโดยด่วนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น