เที่ยวชิมชา ชมสายหมอก และวิวสวย ที่ “ไร่ชา 2000”

ชาของมูลนิธิโครงการหลวงจัดเป็นชาคุณภาพ ที่นักดื่มชาหลายต่อหลายท่านยกนิ้วให้

โดย มูลนิธิโครงการหลวง ได้เริ่มเอาชาจีนมาปลูก เพื่อส่งเสริมเป็นอาชีพแก่เกษตรกรชาวเขา ซึ่งได้พิจารณาว่า แหล่งปลูกที่มีการปลูกชาอัสสัมเดิมแล้ว มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูกชาจีน จึงได้มีนโยบายที่จะพัฒนาและส่งเสริมการผลิตชาจีนขึ้น ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง เพื่อให้เป็นแหล่งปลูกชาจีนของโครงการหลวงที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกษตรกรสามารถยึดเป็นการประกอบอาชีพและรายได้อีกทางหนึ่ง

มูลนิธิโคลงการหลวงจึงแต่งตั้งคณะทำงานวิจัยพัฒนาชาขึ้น เมื่อปี ..2537 เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและหาแนวทางการส่งเสริมการผลิตการจำหน่าย คณะทำงานฯ ได้ค้นคว้าวิจัยเรื่องพันธุ์ การเกษตรกรรม การแปรรูป รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมและเกษตรกรเป้าหมาย เพื่อพัฒนาทักษะในการผลิตให้ได้คุณภาพมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยมีแหล่งปลูกทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ อ่างขาง , ม่อนเงาะ , ขุนวาง และห้วยน้ำขุ่น มีพื้นที่ปลูกรวม 340 ไร่ เกษตรกร 213 ราย ปริมาณการผลิต 92,005 กิโลกรัมในปี 2549 และมูลค่า 5,104,400 บาท

ชาจีนที่มูลนิธิโครงการหลวงแนะนำส่งเสริมให้เกษตรในพื้นที่เป้าหมายปลูกมีจำนวน 2 พันธุ์ด้วยกัน ได้แก่พันธุ์หย่วนจืออู่หลงที่มีลักษณะใบเล็ก มีสีเขียวเข้มและขอบใบเป็นหยักๆ ละเอียดคลายฟันเลื่อย เป็นพันธุ์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติดี และพันธุ์เบอร์ 12″ มีลักษณะลำต้นสูงและกิ่งก้านยาวกว่ามีขนาดของใบกว้างกว่าและมีขอบใบเป็นหยักๆแต่หยาบกว่าพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง และมีความต้องการน้ำน้อยกว่าพันธุ์หย่วนจืออู่หลง ซึ่งวันนี้จะพาคุณๆขึ้นมาเที่ยวแหล่งปลูกชาคุณภาพอีกแห่งหนึ่งของมูลนิธิโครงการหลวง ดอยอ่างขาง กับไร่ชา 2000″

ไร่ชา 2000″ เป็นแหล่งผลิตชาชั้นดีของ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โดยมีสิ่งที่น่าสนใจให้สัมผัสได้แก่ โรงผลิตชาที่ใช้พลังงานสะอาด และวิวทิวทัศน์สวยๆของไร่ชา ขุนเขา สายหมอก รวมถึงมีชาคุณภาพดีให้จิบด้วยโรงงานผลิตชา ไร่ชา 2000  เป็นโรงงานที่ใช้พลังงานสะอาดที่ได้จากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ ที่มีอยู่ตลอดเวลาบนดอยอ่างขาง โดยถือเป็นโรงงานต้นแบบ ใช้กังหันลมไฮบริดขนาด 4 กิโลวัตต์ (กังหันลมกับแผงโซลาร์เซลล์) เพื่อให้ใช้พลังงานจากลมและแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าช่วยลดต้นทุนและก็ลดการสิ้นเปลืองไฟฟ้าได้ และยังช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศอีกด้วย

สำหรับทิวทัศน์ในช่วงฤดูฝนของไร่ชา 2000 นี้ ท่านจะได้พบกับแปลงชาที่อยู่บนเนินเขา ปลูกลดหลั่นกับไปเป็นแนวเลดูสวยงาม ทั้งที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นคลอเคล้ากับสายหมอกที่สวยอีกแห่งหนึ่ง มีมุมให้เลือกถ่ายรูปสวยๆเพียบ และด้วยความสวยของแนวไร่ชา ทิวเขา และสายหมอกของไร่ชา 2000 แห่งนี้ จึงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครหลายเรื่องด้วยกัน

นอกจากมาเยือนดอยอ่างขางในช่วงนี้ จะได้ชมวิวสวยๆของ ไร่ชา 2000 แล้ว ท่านยังจะได้พบกับผลไม้และดอกไม้มากมายที่ ออกผลออกดอกสะพรั่ง อาทิ พลับ , รูบาร์บ , บูลเบอรี่ และดาเลีย โดยพลับเป็นไม้ผลเขตกึ่งร้อนที่มีการผลัดใบ ในทางพืชสวนแล้วได้มีการแบ่งพลับออกได้เป็น 2 พวกใหญ่ๆ คือพลับฝาด จะแปรรูปเป็นพลับแห้งก่อนรับประทาน และพลับหวาน ที่รับประทานผลสด ซึ่งผลผลิตจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมถึงกันยายน รูบาร์บจะมีรสเปรี้ยว นิยมนำมารับประทานโดยทำเป็นขนม ทำซอส หรือแยม ซึ่งจะใช้เฉพาะส่วนก้านเท่านั้น ที่สโมสรอ่างขางมีเมนูซี่โครงหมูตุ๋นรูบาร์บ และแยมรูบาร์บให้ลิ้มชิมรส บูลเบอรี่มีอายุหลายปี และเป็นไม้พุ่มมีกิ่งก้านมาก แต่ไม่มีหนาม ผลบลูเบอรี่มีขนาดเท่าผลมะเขือพวงหรือโตเต็มที่มีขนาดเท่าลูกมะยม ผลที่สุกเต็มที่จะมีสีน้ำเงินคล้ำ ผลที่ยังไม่สุกจะมีสีชมพูและสีแดงปนกัน จะเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนมิถุนายนกรกฎาคม และดาเลียเป็นไม้ตัดดอก ลำต้นมีหัวสะสมอาหารใต้ดิน มีสีหลากหลาย ทั้งเหลือง ชมพู และส้ม งานนี้สนใจสัมผัสความสวยงามของ ไร่ชา 2000 ก็แวะมาชมได้ด้วยตาตนเอง มาแล้วท่านจะรู้ว่าบนดอยอ่างขางก็มีสวรรค์ให้สัมผัส

การเดินทาง

ดอยอ่างขาง” : รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เส้นทางเชียงใหม่ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) เดินทางเรื่อยมาจนถึง อำเภอเชียงดาวบริเวณกิโลเมตรที่ 79 จะพบทางแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกจะผ่าน .เมืองงาย บ้านอรุโณทัย บ้านหลวง เส้นทางจะค่อนข้างแคบ แต่จะไม่ค่อยลาดชันเท่าใดนัก แต่หากไม่เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 137 ซ้ายมือมีป้ายบอกทางขึ้นดอยอ่างขางชัดเจน ซึ่งเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ประจำ ขับรถตามถนนขึ้นมาเลย ทางเส้นนี้จะค่อนข้างลาดชันมาก จึงมีบริการเช่าเหมารถคิวสองแถวหน้าปากทางให้ขึ้นมาส่งได้ แต่จะนำรถขึ้นมาเองก็ควรขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ร่วมแสดงความคิดเห็น