จากกรณีที่ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพงได้รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรม ในห้องพักเลขที่ 45/2 หมู่ 6 ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้เสียชีวิตคือ นางสาวรัติพรรณ มณีผ่อง หรือน้องยิ้ม อายุ 26 ปี ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมโดยพบร่องรอยบาดแผลถูกมีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอ และมีร่องรอยถูกเชือกรัด จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มที่อาศัยอยู่ด้วยกันที่ห้องเช้าดังกล่าวคือ นายประชา มุลนี อายุ 46 ปี ชาวอำเภอดอยสะเก็ด ที่ภายหลังได้หลบหนีไป พร้อมทั้งได้ทำการโทรบอกมารดาของหญิงผู้เสียชีวิตว่าได้ทำการฆ่าลูกสาว และให้มาจัดการกับศพภายในห้อง ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 15.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ลงมือได้ทันควัน ในพื้นที่จังหวัดลำพูน บริเวณด้านหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใกล้กับขนส่งจังหวัดลำพูน จากนั้นในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 ก็ได้นำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยระหว่างการทำแผนมีกลุ่มชาวบ้าน รวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตจำนวนมากต่างด่าทอและสาปแช่งผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้นในสิ่งที่กระทำไป ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายประชา มุลนี ได้ทำการชี้จุดเกิดเหตุ และขั้นตอนในการลงมือก่อเหตุ โดยตอนแรกได้คว้าท่อนไม้ที่อยู่ข้องห้องพักเข้าไปทำการฟาดผู้เสียชีวิต ขณะที่กำลังนอนอยู่ในห้องนอนจำนวน 3 ครั้ง หลังจากนั้นได้วิ่งออกมาคว้ามีดกับเชือกไนล่อนที่อยู่นอกห้องไม่ไกลมาก ก่อนจะใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอของผู้เสียชีวิต แล้วจึงใช้เชือกไนล่อนรัดคอแฟนสาว จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
จากนั้นก็ได้ทำการทิ้งศพของผู้เสียชีวิตรวมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุไว้ในห้องพักที่เกิดเหตุ แล้วหลบหนีไปที่จังหวัดลำพูน เนื่องจากผู้ต้องหานั้นมีลูกกับภรรยาคนก่อน พร้อมทั้งได้ไปหลับนอนกับลูกสาว 1 คืน แล้วต่อมาเช้าของวันที่ 23 พฤศจิกา ก็ได้ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน เสร็จแล้วก็ได้โทรบอกทางมารดาของแฟนสาวที่ลงมือฆ่า จนกระทั่งช่วงบ่าย ขณะที่กำลังขับรถมารับลูกสาวที่โรงเรียนก็ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยทางเจ้าตัวตั้งใจว่าจะมาร่ำลาลูกสาวก่อนที่จะเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้ว
ส่วนสาเหตุของการลงมือฆ่า นางสาวรัติพรรณ มณีผ่อง หรือน้องยิ้ม นั้นก็สืบเนื่องมาจาก เกิดความหึงหวง เพราะว่าที่ผ่านมาได้คบกับผู้เสียชีวิตมาได้ประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว จนกระทั่งระยะหลังได้ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องเช่าที่เกิดเหตุ ส่วนแฟนสาวนั้นก็ไปทำงานเป็นสาวคาราโอเกะ และที่ผ่านมาก็ทราบว่าแฟนสาวนั้นได้มีผู้ชายอื่นมาติดพัน ซึ่งตนนั้นเคยพบว่าแฟนสาวได้พกถุงยางอนามัยด้วย แต่ก็ได้พูดตักเตือนไปว่าไม่อยากให้ไปคบหรือมีอะไรกับชายอื่น จนกระทั่งในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แฟนสาวได้กลับมายังห้องพัก และตนจะเอารถจักรยานยนต์ไปซื้อของ แต่ได้เปิดใต้เบาะรถก็พบมีกล่องยาคุมอยู่ ตนจึงเกิดความโมโหหน้ามืด ได้คว้าท่อนไม้ที่อยู่ข้างห้องพักวิ่งเข้าไปฟาดแฟนสาว จากนั้นก็วิ่งมาเอามีดและเชือกไนล่อนเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่ทำไปนั้นเกิดจากความรักและความหึงหวง อย่างไรก็ตามภายหลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้วนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สันกำแพง พร้อมทั้งจะได้ส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น