ชิวๆ วันหยุดพาไปดื่มกาแฟตั๋วกะหมี แกล้มข้าวปุกงารับบรรยากาศหนาว

ที่บูธกาดนัดชาวดอยอุทยานหลวงราชพฤกษ์

มีใครหลายคนที่หลงใหลในรสชาติและความหอมของกาแฟ และเป็นที่รู้จักกันดีของเหล่าแฟนพันธุ์แท้คอกาแฟว่า “กาแฟอาราบิก้า”
เป็นกาแฟที่มีรสชาติดี ซึ่งแหล่งปลูกที่เหมาะสมพื้นที่ปลูกตั้งแต่เส้นรุ่ง 17 องศา เหนือขึ้นไป มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 700 เมตร มีความลาดเอียงไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ใครหลายคนนั้นคิดว่ากาแฟเลิศรส
แบบนี้จะต้องเป็นของเมืองนอก หรือเป็นแบรนด์ยี่ห้อดังเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว บ้านของเรา นี่เองที่เป็นแหล่งผลิตกาแฟคุณภาพดี และเป็นแหล่งปลูกต้นกาแฟชั้นดีระดับประเทศสถานที่ปลูกและเป็นจุดกำเนิดของกาแฟอาราบิก้าชั้นดีอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่ บ้านใหม่พัฒนา ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง

ในวันนี้ แม่รำเพย ป้าอบเชย ขอเอาใจคนรักกาแฟ หรือว่า
คอกาแฟ แวะมาดื่มกาแฟกันที่ บูธ กาแฟ “ตั๋วกะหมี” ของลุงตั๋ว จางอรุณ
ที่ได้มาออกบูธกาแฟสดกันที่ ตลาดนัดชาวดอย ลานจอดรถของ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ซึ่งจะเปิดเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ เท่านั้น ก่อนจะมา
ดื่มกาแฟ “ตั๋วกะหมี” ให้ลุงตั๋ว ได้เล่าที่มาที่ไปของกาแฟว่า
“เมื่อครั้งอดีตดอยแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกฝิ่นชั้นดี เพราะมีสภาพดินที่มีความสมบูรณ์และอากาศเย็นทั้งปี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมา และพระราชทานแนวคิดให้ปลูกกาแฟทดแทนการปลูกฝิ่น และได้ทรงพระราชทาน กาแฟอาราบิก้า (Arabica) มาให้ปลูกชาวบ้านนั้นได้ร่วมใจกันเลิกปลูกฝิ่นในปี พ.ศ.2525 และได้เริ่มหันมา
ปลูกกาแฟ รวมถึงพืชไม้เมืองหนาว ส่วนตัวลุงตั๋วได้เริ่มหันมาปลูกกาแฟอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2540 จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงทำให้กาแฟเริ่มพัฒนาเป็นที่รู้จัก เพราะด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดินที่มี
ความชุ่มชื่น และสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

นอกจากนี้ยังมีโครงการหลวงเข้ามาส่งเสริมเมื่อปี 2547 ก็เลยเข้าเป็นสมาชิกเริ่มแรกการปลูกก็มีเพียง 4 ไร่ปัจจุบันได้ขยายเป็น 14 ไร่ ณ วันนี้ได้ส่งกาแฟให้กับโครงการหลวง 70% ส่งให้บริษัท 20% และขายเอง 10% จึง เป็นที่มาของกาแฟ “ตั๋วกะหมี”
ในขั้นตอนการผลิตกาแฟนั้น ต้นกาแฟจะโตเต็มที่และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงอายุประมาณ 5 ปี โดยจะเริ่มเก็บเกี่ยวเมล็ดเมื่อเมล็ดกาแฟเริ่มเป็นสีแดงก่ำจนมีสีคล้ายผลเชอรี่ ซึ่งจะทำการเก็บด้วยมือทีละ
เมล็ด หลังจากได้เมล็ดกาแฟแล้วก็จะนำมาแยกเปลือกภายใน 24 ชั่วโมง
และนำไปตากแดดด้วยแสงอาทิตย์ 7-8 วัน เพื่อให้เมล็ดแห้ง และจะทำการเก็บ
และบ่มในโกดัง หลังจากนั้นก็จะคัดเมล็ดกาแฟที่ได้มาตรฐานนำมาคั่วและออกจำหน่าย
สำหรับกาแฟ “ตั๋วกะหมี” ด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์รสชาติกาแฟของลุงตั๋ว จะมีความโดดเด่นในเรื่องรสชาติดี มีกลิ่นหอมของกาแฟ
ที่สำคัญ รสชาติกลมกล่อม ดื่มตอนร้อน ๆ ให้รสชาติกำลังดี
ที่บูธจะมีกาแฟให้เลือกดื่มทั้งกาแฟสด หรือจะดื่มร้อนหรือเย็นมีให้เลือก ทั้ง เอสเพรสโซ่ มีรสชาติที่เข้มข้น ด้วยรสชาติของกาแฟที่แก่และขม แต่มีกลิ่นหอม คาปูชิโน กาแฟที่ใส่ฟองนมลอยหน้าอยู่ด้านบน
กาแฟ รสชาติกาแฟคาปูชิโนจะอ่อนกว่าเอสเพรสโซ่เล็กน้อย แต่เข้มข้นกว่าลาเต้และหอมกลิ่นนม ส่วนลาเต้ ให้รสชาติกาแฟที่ผสมนมลงไปด้วย ทำให้รสชาติของกาแฟอ่อนกว่าเอสเพรสโซและคาปูชิโน มีกลิ่นหอมของนม
เรียกได้ว่าสุดยอดคอกาแฟจะต้องติดใจ
อีกอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านก็คือขนมที่นำมาขายแทนที่จะเป็น เค้ก เป็นเบเกอรี่ แต่ไม่ใช่ แต่กลับเป็นข้าวปุกงาทำจากแป้งข้าวเหนียวดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ข้าวปุกงาทำจากข้าวกล่ำดอย นึ่งสุกแล้ว ตำผสมกับงาเมือง หรืองาขี้ม่อน จนกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาปิ้งกับเตาถ่านให้สุกจนกรอบและโรยด้วยนมสด หรือผงน้ำอ้อย มีรสชาตินุ่ม หอมข้าว หวานน้ำอ้อย เป็นอาหารพื้นบ้านท้องถิ่นของชาวเขา ที่มีเสน่ห์ หากินได้ไม่ ง่ายนัก มีเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น หากจะทานกับกาแฟร้อน ก็ถือว่าเข้ากันได้
บูธหรือว่าร้านกาแฟ “ตั๋วกะหมี” จะเปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ หากลูกค้าที่ยังคงติดใจรสชาติสามารถซื้อกาแฟกลับไปชงที่บ้านเองได้
ซึ่งทางลุงตั๋วได้บรรจุลงในซองจำหน่าย ซึ่งสะดวกในการดื่มแถมให้รสชาติที่ไม่ แตกต่างจากการซื้อดื่มที่ร้านกาแฟ “ตั๋วกะหมี” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมจะบริการลูกค้าคอกาแฟได้ดื่มกาแฟคุณภาพดี โดยเจ้าของสวนเป็นผู้ปลูกเอง คั่วเอง และผู้ขายเอง

ร่วมแสดงความคิดเห็น