ขึ้นทะเบียนอาชีพนวด สำหรับผู้พิการสายตา


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำให้ผู้พิการทางสายตาที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการนวดและต้องการประกอบอาชีพนวด เร่งมาขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 23 ธ.ค.60 หากพ้นกำหนด จะต้องเข้าอบรมใหม่ภายหลัง เผยพื้นที่ 8 จังหวัดเหนือ มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพมายื่นขออนุญาตแล้ว จำนวน 1,032 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการจำนวน 9,552 ราย
เมื่อวันที่ผ่านมา นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายถาวร ขาวแสง ผอ.สำนักงานสันบสนุนบริการสุขภาพเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ และ นายอิสรา นานาวิชิต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สสจ.เชียงใหม่ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่อง ” การขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการนวด สำหรับผู้พิการทางสายตา” ในวาระการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 56/2560 ณ อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
โดย นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กลุ่มผู้พิการทางสายตาที่มีวุฒิบัตร หรือใบประกาศนียบัตรที่ได้รับการอบรมในหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนก่อนวันที่พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ (27กันยายน2559) และประสงค์จะประกอบอาชีพเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้มายื่นขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯได้จนถึงวันที่ 23 ธันวาคมนี้ หากพ้นกำหนดดังกล่าว จะต้องเริ่มอบรมนวดใหม่ตามหลักสูตรกลางนวดไทยเพื่อสุขภาพ สำหรับผู้พิการทางสายตา 255 ชั่วโมง และต้องเป็นสถาบันที่ขอรับรองหลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเรียบร้อยแล้ว จึงจะมาขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการได้ ซึ่งการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฯจะไม่มีค่าธรรมเนียม และใช้ได้ตลอดชีพ แต่หากตรวจสอบทราบภายหลังว่ามีคุณสมบัติไม่ครบ หรือมีลักษณะต้องห้าม เช่น ถูกพิพากษาคดีเกี่ยวกับความผิดทางเพศ ยาเสพติด ค้าประเวณี ฯลฯ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติฯ จะถูกลบชื่อออกจากทะเบียนของกรมฯ ทันที หากพ้นกำหนด
รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ข้อมูลผู้ให้บริการที่มาขอขึ้นทะเบียนทั่วประเทศ มีประมาณ 77,700 ราย ส่วนผู้ให้บริการที่เป็นผู้พิการทางสายตาที่มีวุฒิบัตร หรือใบประกาศนียบัตรที่ได้รับการอบรมในหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เริ่มรับขึ้นทะเบียนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ในเขตสุขภาพที่ 1 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพมายื่นขออนุญาตแล้ว จำนวน 1,032 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการจำนวน 9,552 ราย
“สำหรับ เอกสารที่ใช้ในการขึ้นทะเบียน ประกอบด้วยสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน นับถึงวันที่ยื่น) สำเนาใบวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ได้รับการอบรมตามหลักสูตร อย่างละ 1 ฉบับ และรูปถ่ายหน้าตรง 1 นิ้ว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 2 รูป พร้อมทั้งกรอกคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” นายแพทย์ประภาส กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น