เชียงใหม่นิวส์พาเที่ยว “น้ำตกแม่สุรินทร์” สัมผัสสายน้ำที่ทิ้งตัวลงมาจากภูเขาสูง ท่ามกลางผืนป่าอันบริสุทธิ์

หากนึกถึงสายน้ำสีขาวที่ทิ้งตัวลงมาจากภูเขาสูงท่ามกลางผืนป่าอันบริสุทธิ์ที่โอบล้อมโดยรอบแล้วล่ะก็ ทุกคนต้องนึกถึงอุทยานแห่งชาติแม่สุรินทร์อย่างแน่นอน 

เพราะที่นี่คืออุทยานแห่งชาติที่มีเสน่ห์ของสายน้ำบรรจบ กับความงามของทิวเขาได้อย่างลงตัว อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์นั้น ครอบคลุมพื้นที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะทั้งที่แตกต่างกันและคล้ายกันหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ดอยวิดจา ดอยปุงถุ่น จะมีหน้าผาสูงชันมาก ที่นี่มีเนื้อที่ประมาณ 396.60 ตารางกิโลเมตร หรือ 247,875 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2524 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 37 ของประเทศ

ไฮไลท์
• น้ำตกแม่สุรินทร์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เคียงคู่กับทุ่งบัวตองและลำน้ำปาย น้ำตกแม่สุรินทร์เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันที่มีความสูงประมาณ 80 เมตร และนับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย น้ำตกสายนี้มีแม่น้ำสุรินทร์เป็นแหล่งต้นน้ำ และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี
• น้ำตกดำข่อนหรือน้ำตกผาบ่องซึ่งเป็นน้ำตกลงมาจากห้วยดำข่อน มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นลงมาถึง 3 ชั้น มีความสูงประมาณ 40 เมตร และด้านซ้ายของน้ำตกนี้ยังแยกเป็นน้ำตกเล็ก ๆ อีกหลายสาย
• หนองเขียวซึ่งเป็นที่ราบลุ่มบนสันเขากว้างประมาณ 200 ไร่ท่ามกลางป่าสนเขา การเดินทางมาหนองเขียวนั้น ต้องเดินเท้าจากน้ำตกแม่สุรินทร์ประมาณ 2 ชั่วโมง
• ยอดดอยปุยยอดเขารูปร่างคล้ายฝาชี ข้างบนยอดแบนราบคล้ายภูกระดึง  บนนี้มีสภาพอากาศหนาวจัดทำให้มีพันธุ์ไม้เมืองหนาวขึ้นอยู่ทั่วไป การเดินทางมาที่นี่ ต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากบ้านห้วยน้ำแม่สะกึด
สิ่งอำนวยความสะดวก
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท อุทยานฯ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว โดยสามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้กับทางกรมอุทยานแห่งชาติ โทร. 0 5306 1073 หรือ www.dnp.go.th

การเดินทาง
จากอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกเดินทางไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ไปอำเภอขุนยวม เป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จากอำเภอขุนยวมจึงเดินทางต่ออีกประมาณ 40 กิโลเมตร เข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์

ที่มา – tourismthailand

ร่วมแสดงความคิดเห็น