คาดใช้พลังงาน ปี61เติบโตจากเศรษฐกิจขยายตัว


“สนพ.”คาดการใช้พลังงานขั้นต้นปี 2561 จะอยู่ที่ 2.81 ล้านบาร์เรลต่อวันโตขึ้น 2.1% จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ขยายตัว 3.6-4.6% จากปีนี้คาดการใช้จะอยู่ที่ 2.75 ล้านบาร์เรลต่อวันโต 2.4% จากปี 59 โดยแป็นการใช้เพิ่มขึ้นทุกประเภทเว้นก๊าซฯที่ใช้ผลิตไฟลดลง ขณะที่แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีขึ้นเล็กน้อยส่วนค่าไฟทรงตัว ดีเซลคาดเฉลี่ยจะอยู่ที่ 25-27 บาทต่อลิตร
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สนพ.ได้คาดการณ์แนวโน้มการใช้ปีพลังงานขั้นต้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 2.81 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันหรือเพิ่มขึ้น 2.1% จากปี 2560 ที่ประเมินว่าทั้งปีจะใช้อยู่ที่ 2.75 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือเพิ่มขึ้น 2.4% จากปี 2559 โดยอิงจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 61 ที่จีดีพีจะโต 3.6-4.6% น้ำมันดิบดูไบ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 34-35 บาทต่อเหรียญฯ
ส่วนราคาน้ำมันขายปลีกภาพรวมของปี 2561 หากราคาน้ำมันดิบไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเฉลี่ยจะอยู่ 50-60 เหรียญฯต่อบาร์เรลราคาขายปลีกน้ำมันก็จะใกล้เคียงกับปีนี้หรือขยับขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 25-27 บาทต่อลิตรที่เฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ระดับ23-26 บาทกว่าต่อลิตร เช่นเดียวกับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ที่ปี 2560 เฉลี่ยลดลงจากปีก่อน 4 สตางค์ต่อหน่วยและปี 2561 คาดว่าจะทรงตัวจากราคาก๊าซฯที่ย้อนหลังจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ไม่สูงทำให้ราคาก๊าซฯไม่หวือหวา แต่ทั้งนี้ก็ต้องติดตามราคาน้ำมันดิบว่าที่สุดจะสูงขึ้นหรือไม่ รวมถึงปัจจัยค่าเงินบาท
สำหรับการใช้พลังานภาพรวมที่เพิ่มขึ้นในปี 2561ประมาณ 2.1% นั้นเป็นการเพิ่มขึ้นทุกประเภทยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่คาดว่าจะมีการใช้ลดลง โดยการใช้พลังงานทดแทนจะเพิ่มขึ้นมากที่สุด 7.1% เมื่อเทียบกับปี 2560 เป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐที่จะคงการจำหน่ายไบโอดีเซล(บี7) ตลอดปี 2561 การใช้น้ำมันเพิ่ม 2.2% จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และราคาน้ำมันที่คาดว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำ ลิกไนต์และถ่านหินนำเข้าเพิ่ม 1.2% โดยเฉพาะการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรม การใช้ไฟฟ้านำเข้าเพิ่ม 0.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากฐานการนำเข้าจาก สปป.ลาว ที่สูงในปี 2560 ส่วนก๊าซธรรมชาติลดลง 1.2% จากการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า และการใช้ในภาคขนส่ง (NGV) ที่ลดลง
การใช้ไฟฟ้า ปี 2561 คาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 192,923 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 4.1% ตามภาวะเศรษฐกิจที่จะปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจโลก ขณะที่ความต้องการใช้ไฟสูงสุด(พีก ) ของประเทศคาดว่าจะอยู่ระดับ 34,202 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 0.3% พีกในระบบ 3 การไฟฟ้าคาดว่าจะอยู่ระดับ 30,703 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้น 1.3% ในระบบการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)คาดว่าจะอยู่ระดับ 29,493 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้น 3.2%

ร่วมแสดงความคิดเห็น