ส่งออกอุตฯอาหาร กลุ่มน้ำโขงแชมป์ เมืองยุ่นคว้ารองฯ

มั่นใจแนวโน้มส่งออกอาหารไทยยังคงสดใส หลังตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แจงกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ยังคว้าแชมป์เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของเมืองไทย โดยมีแดนปลาดิบตามมาเป็นอันดับสอง คาดกลุ่มสินค้าประเภทผลไม้สดจะเป็นสินค้าดาวเด่นในอนาคต

นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า จากการประสานความร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร พบว่า ภาคการผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทยในปี 2560 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.0% สำหรับการส่งออกคาดว่าจะมีปริมาณ 32.5 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตรา 4.5% จากปีก่อน มีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวียังคงเป็นตลาดส่งออกอาหารอันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วน 16.6% รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น 13.5% กลุ่มอาเซียน 11.6% สหรัฐอเมริกา 10.6% แอฟริกา 9.3% จีน 9.0% สหภาพยุโรป 6.0% ตะวันออกกลาง 4.2% โอเชียเนีย 3.3% สหราชอาณาจักร 3.0% และเอเชียใต้ 1.6%

“ปีนี้มีสินค้าส่งออกกลุ่มใหม่ๆ ที่ขยายตัวสูงและคาดว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าดาวเด่นของไทยในอนาคต ได้แก่ กลุ่มผลไม้สดไม่รวมผลิตภัณฑ์มะพร้าว ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 72,340 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 23% เครื่องดื่มชูกำลัง 22,520 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ 13,533 ล้านบาท นม 10,469 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่รวมวิตามิน 3,201 ล้านบาท และไอศกรีม 2,122 ล้านบาท โดยสินค้าส่วนใหญ่มีตลาดหลักอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้ ทั้ง 3 องค์กรจะร่วมกันผลักดันสินค้าในกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น” นายยงวุฒิกล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 60 ในอัตรา 7% มีมูลค่าส่งออก 1.07 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลผลิตวัตถุดิบสินค้าเกษตรในปีการผลิต 2560/61 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำฝน และนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรกรรมและเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย

โดยสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว ไก่ น้ำตาลทราย กุ้ง และทูน่ากระป๋อง ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มะพร้าวเพิ่มขึ้น 17.6% แป้งมันสำปะหลัง อาหารพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้น 10.0% กุ้งเพิ่มขึ้น 9.3% น้ำตาลทรายเพิ่มขึ้น 6.8% เครื่องปรุงรสเพิ่มขึ้น 6.8% ไก่เพิ่มขึ้น 6.6% และน้ำผลไม้เพิ่มขึ้น 6.6%.

ร่วมแสดงความคิดเห็น