เซ่น 3 ศพร้านข้าวต้ม ชาวปายจี้จัดระเบียบ สถานบันเทิงด่วน!

ประธานสภาวัฒนธรรม อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ออกมาให้ความคิดเห็น ต้องมีการจัดระเบียบสถานบันเทิงกลางคืน และเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดตรงไปตรงมา ขณะที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเสียงของสถานบันเทิง ระบุ เคยร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.ปาย มาแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหาย ไม่มีการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 นางอาภรณ์ แสงโชติ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.ปาย เปิดเผยหลังจากได้ทราบข่าวมีการฆ่าหมู่ 3 ศพที่ร้านข้าวต้ม 25 น.ใกล้เรือนแฝด 2 โฮเต็ล ตามสื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ออกไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการบังคับใช้กฎหมายจากเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เข้มงวดและไม่เสมอภาค ส่งผลกระทบในระยะยาว ทั้งนี้ สถานบันเทิงหลายแห่งในเมืองปาย ส่วนใหญ่เปิดเกินเวลา และหลังจากนั้นก็จะพากันไปกินเหล้าต่อที่ร้านข้าวต้ม ซึ่งเสียงของกลุ่มคนที่เมามาย ในยามวิกาลและเลยเวลาจนเกินไป ส่งผลกระทบต่อสุจริตชน ที่อาศัยข้างเคียง จนเกิดการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น

เมื่อเกิดบ่อยครั้ง อาจจะทำให้คนที่เกิดความเครียด บันดาลโทสะได้โดยง่าย ซึ่งเรื่องดังกล่าว จะต้องมีการแก้ไขให้เป็นรูปธรรม โดยในวันที่ 8 มกราคม นี้ ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการและสมาชิกสภาวัฒนธรรมปาย เพื่อหาทาง ออก และอาจจะมีการจัดเวทีเสวนา โดยเชิญเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องมาลงสัตยาบันเพื่อปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นเมืองปายจะลุกเป็นไฟ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างร้ายแรง

นายรักษ์พล อาภาวัง เจ้าของร้านรักษ์ต้มเลือดหมู เปิดเผยว่า จากกรณีการฆ่าหมู่ที่เกิดขึ้นในเมืองปาย ถือเป็นบทเรียนที่ล้ำค่า และเจ้าหน้าที่รัฐต้องปรับปรุงตัวเอง โดยปฏิบัติหน้าที่ ตามตัวบทกฎหมายอย่างจริงจังและมีความเสมอภาค ทั้งก่อนหน้านี้ ตนเคยได้รับผลกระทบด้านเสียงจาก ร้าน ส.ป.ส.ช. ที่อยู่ติดกัน ซึ่งเปิดเกินเวลา โดยตนได้ร้องเรียนทางไลน์ไปยังนายอำเภอและผกก.สภ.ปาย เรื่องยังเงียบ ต่อมาตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.ปาย แต่ก็ปรากฏว่าเรื่องเงียบเหมือนเดิม จนตนต้องประกาศขายบ้านและกิจการที่มี เพื่อหนีออกจากเมืองปายมาแล้วครั้งหนึ่ง

นายสุรเพชร สิทธิเพชร ผญบ.บ้านป่าขาม ต.เวียงใต้ อ.ปาย เปิดเผยว่า เรื่องปัญหาด้านเสียง ในยามวิกาลที่เกิดขึ้น ตนในฐานะ ผู้ใหญ่บ้าน เคยออกไปตักเตือนร้านในเขตรับผิดชอบมาแล้วหลายครั้ง แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ เมื่อนำเสนอข่าวออกสื่อไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทั้งอำเภอ และตำรวจ ออกมาตักเตือนเป็นพักๆ แต่ก็ยังมีการเปิดร้านเหล้าเกินเวลาเหมือนเดิม แถมจะหนักกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปดูแลอย่างเข้มงวด ทำให้ราษฎรชาวเมืองปาย ต้องอดทนต่อสิ่งเหล่านี้มานานนับสิบปี บางรายถึงกับเป็นโรคความดันและประสาทอ่อนๆ ก็มี ทั้งนี้อยากจะให้เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นอุทาหรณ์ และให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ออกมาดำเนินการอย่างจริงจัง โดยไม่เกรงใจเจ้าของร้านต่างๆ

ล่าสุดบริเวณสถานที่เกิดเหตุ ได้มีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบสังกัดหน่วยงานชัดเจน ได้จัดกำลังคอยห้ามบุคคล ที่จะถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ และห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด สร้างความกังขาให้กับชาวปาย เป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมจะต้องห้ามถ่ายรูป ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ไปแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น