เชียงใหม่นิวส์พาเที่ยว “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ”

ดินแดนทะเลภูเขา ชนเผ่าวิถีเกษตร อร่อยลิ้มผัก 10 ชนิด “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแมโถ
159 กิโลเมตร ถนนตัดผ่านข้ามขุนเขา ผ่านดินแดนแห่งทะเลภูเขาที่มองไปทิศทางไหนก็จะมีแต่ภาพทิวขุนเขาซ้อนสลับเป็นชั้นๆ ชุมชนดำรงวิถีเกษตรกรรมบนภูเขา และธรรมชาติอันงดงาม ที่เรากำลังเดินทางท่องเที่ยวเรียนรู้ “โครงการหลวงแมโถ

ชื่อที่มาของ “บ้านแมโถ” ได้เพี้ยนมาจากภาษาท้องถิ่นชาวปะกาเกอญอ “แม่โทคี” จนกระทั่ง ปี 2539 “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแมโถ ได้ถือกำเนิดขึ้น ตามแนวนโยบายส่งเสริมอาชีพเกษตรกรแผนใหม่ เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น ลดการใช้สารเคมีในการปลูกกะหล่ำปลี ชุมชนชาวปะกาเกอญอ ม้ง และจีนฮ่อ ที่บ้านแมโถ ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

นายจรีวีฒน์ สังขทีป(พี่เบิร์ด) นักวิชาการ  และ นายสินธ์ชัย  ศรีฉลวยมาลี เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สาร  ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแมโถ เป็นไกด์พาเที่ยวชม เนื่องจากช่วงนี้ชาวบ้านอยู่ในช่วงการลงแขกตีข้าวกลางทุ่งนาทำให้เราได้ร่วมสัมผัสการล้อมวงตีข้าวร่วมแรงร่วมใจกัน  ในหมู่บ้านตามลานกว้าง หรือริมถนนก็จะกลายเป็นที่ตากข้าว ชาวบ้านปะกาเกอญอผู้หญิงในยามว่างงานก็จะทอผ้าใต้ถุนบ้านไว้ใช้กันเอง ถัดมาอีกหมู่ 1 บ้านชาวม้งไปชมการตีมีดบริเวณหน้าโรงเรียนแมโถของ ลุงจงเจ๋า พิทย์หาร วัย 82 ปี ที่ยังตีมีดไว้ใช้ในงานเกษตรของหมู่บ้านโดยใช้เหล็กเก่าจาแนบรถยนต์มาใช้ตีขึ้นรูปจนเป็นมีด ตามลานบ้านจะเห็นผู้หญิงชาวม้งนั่งปักผ้าลวดลายสีสวย  ถัดมาชมโรงเรือนตระกุลผักสลัด

แล้วมาจุดชมวิวหลังศูนย์ฯที่บนนี้ มีก้อนหินใหญ่เป็นประติมากรรมกลุ่ม 4-5 ก้อน รายล้อมท่ามกลางดอกหญ้าหางกระรอกเป็นจุดชมพระอาทิตย์อีกที่สวยงาม

มื้อค่ำกับเมนู “น้ำพริกอ๋องกับผักสลัด” ในยามค่ำบนท้องฟ้าดวงดาวน้ำใหญ่เริ่มส่งแสงประกายระยิบระยับพอปิดไฟที่พักที่หน้าห้องก็มีดาวให้ชมอย่างเพลิดเพลิน

6.00 น. มีนัดกับ คุณสินธ์ชัย ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นทางหลังศูนย์ฯถัดไปอีก 1 กิโลที่ดอยคำเป๋อจุดนี้มีทะเลหมอกทางขวา พระอาทิตย์ขึ้นทางซ้ายให้ได้ตัดสินใจเลือกอะไรดี แล้วไปชม “ต้นไม้ของพ่อหลวงแม่หลวง” เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นสนฉัตรคู่นี้ที่เสด็จทรงงานที่บ้านแมโถเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2520 ที่อุทยานแห่งชาติแมโถ ถัดมาชมสวนองุ่นของ คุณเบญจวรรณ วิหคไพรวรรณ บนพื้นที่ขนาด 3 ไร่ ที่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสาน ปลูกองุ่น,กล้วยไม้ซิมีเดียม,เคพกูสเบอร์รี่  และเลี้ยงหมูหลุม

ช่วงบ่ายมาชม “น้ำตกแม่แอบ” อยู่ห่างจากศูนย์ฯประมาณ 7 กิโลเมตรเป็นน้ำตกขนาดกลางมีสายน้ำไหลตกสูงประมาณ 10 เมตร โดยเที่ยงนี้เรามี เชฟสุวรรณ วิหคไพรวรรณ มาตำส้มตำไก่ย่างกันที่ริมน้ำตกกันเลย   นายทวี  สาครำรง นักวิชาการไม้ผล พาเที่ยวชมไม้ผลของเกษตรกร สวนเสาวรสของ คุณปิ่นทอง ธานินทร์ เป็นช่วงปลายฤดูการแล้ว มาต่อที่สวนมันเบอร์รี่ของสวนลุงยี่ ซึ่งอยู่ติดๆกัน เย็นนี้มาที่สนามกีฬากลางภูเขาของหมู่บ้าน จะเห็นเด็กเล็กและเด็กโตเล่นลูกข่างกันที่เป็นการเล่นของชาวม้งที่นี่ก็ยังสามารถชมทิวทิศน์พระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม ในส่วนเมนูค่ำนี้ด้วย “ปลาเผาผักสด และน้ำพริกปลาทู” ที่เชฟสุวรรณได้รังสรรค์พิเศษ

6.00 น.เราออกไปดอยสูงที่บ้านกองลา บนดอยเหลือแต่ตอซังข้าวหลังจากเก็บเกี่ยวแสงสีเหลืองส้มค่อยฉายแสงออกจากเส้นขอบฟ้า รอบๆขุนเขาเกิดมิติสีสันที่งดงามให้ได้ชื่นชม พอสายๆแดดอุ่นเหล่านกน้อยใหญ่ส่งเสียงกันเริงร่า อาทิ  นกปรอดสีเขม่า,นกปรอดเหลืองหัวจุก,นกปรอดหัวโขน,นกกระจิ๊ด,นกจาบฝน, นกบั้งรอกใหญ่,นกยอดหญ้าหัวดำ,นกยอดหญ้าสีเทา นกจับแมลงอกส้ม และอีกา แล้วได้เวลากลับศูนย์เพื่อเตรียมเดินทางกลับ

3 วัน 2 คืน ที่ได้ร่วมสัมผัสวิถีเกษตรของชนเผ่า ธรรมชาติแห่งขุนเขา แม้จะเป็นศูนย์เล็กทว่ามีความหลายหลากมากมายที่ยิ่งใหญ่ ได้ให้เราศึกษาเรียนรู้เปรียบได้ว่า “ห้องสมุดแห่งชีวิต” ที่เราเรียนรู้อย่างไม่จบสิ้น...แมโถ

 

การเดินทาง/ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108(เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน)ประมาณ 88 กม. ถึงอำเภอฮอดเลี้ยวขวาไปตามถนนฮอด-แม่สะเรียง อีก 55 กม.จากนั้นให้เลี้ยวขวาที่แยกบ้านกองลอย มุ่งหน้าไปบ้านแมโถ ตามทางหลวงหมายเลข 1270 สายกองลอย-แมโถ อีก 16 กม.ถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแมโถ

ร่วมแสดงความคิดเห็น