(คลิป) พาชม.. แลนด์มาร์คสุดฮิต “สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์”

หากคุณเป็นสาวกฮิปสเตอร์ที่รักในการถ่ายภาพสุดชิค สไตล์ฮิปๆ จะพลาดไม่ได้เลย กับ สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่ชวนมาเช็คอิน  ฟินไปกับบรรยากาศในสวนไม้ดอกนานาชนิด

ศูนย์พฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เดิมเรียกว่า “สวนพฤกษศาสตร์แม่สา” มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิจัยและให้ความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ประจำภาคเหนือของประเทศไทย จัดทำเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพรรณไม้หายากและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ติดถนนแม่ริม – สะเมิง เปิดให้เข้าชมในปี พ.ศ.2545 มีโรงเรือนกระจกทั้งหมด 4 โรงเรือนขนาดใหญ่ และ 8 โรงเรือนเล็ก อยู่ลึกเข้าไปจากปากทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์ฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร

อาคารเรือนกระจก ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในตัวอาคารนั้นได้รวบรวมพรรณไม้จากป่าไม้ทุกภูมิภาค ของทวีปเอเชียของเราไว้นั่นเอง มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆมาดูแลรักษาพรรณไม้โดยการฉีดละอองน้ำในเรือนกระจกให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมความงดงามของธรรมชาติ

เรือนแสดงไม้ป่าดิบชื้น เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ มีน้ำตกจำลองที่ให้ความชุ่มชื่น สร้างบรรยากาศภายในสวยงามราวกับเข้าไปอยู่ในป่าจริงๆ นักท่องเที่ยวสามารถชมต้นไม้และธรรมชาติอย่างใกล้ชิดได้เลยทีเดียว

เรือนไม้น้ำ ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดแสดงไม้น้ำและพืชชุ่มน้ำชนิดต่างๆ ไม้ชุ่มน้ำต่างๆ และพืชกินแมลง เช่นกาบหอยแครง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งเป็นพืชที่ดูแปลกหูแปลกตาและหาดูได้ยากจะมีมาให้ท่านได้เยี่ยมชมกัน

เรือนกล้วยไม้และเฟิร์น ในเรือนได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด เป็นกล้วยไม้ป่าที่มีหลากหลายสายพันธุ์ สีสันสวยงามตระการตา มีกลิ่นหอมชวนให้หลงใหล ออกดอกตลอดทั้งปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง บางพันธุ์ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว และบางพันธุ์ก็หาดูได้ยาก หากท่านใดสนใจสามารถเที่ยวชมรอบๆได้ โดยเฉพาะกล้วยไม้หลายๆสายพันธุ์ที่หาดูได้หายากและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

เรือนพืชทนแล้ง เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ และเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นสถานที่ยอดฮิตของเหล่าวัยทีนแนวฮิปเตอร์ มีพืชสกุลกระบองเพชรชนิดต่างๆ อาทิ ถังทอง ตระกูลแมม แอสโตร พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา พืชอวบน้ำ และไม้แล้งทรงสูง ให้ได้ถ่ายภาพสุดชิคๆ รับรองได้ว่าท่านจะได้รูปภาพที่ถูกใจและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

เรือนรวมพรรณบัว โดยรวมพรรณบัวเฉพาะของไทยและของเอเชีย ที่ออกดอกสวยงาม สีสันหลากสีจัดให้ให้ผู้ที่สนใจมาศึกษาสายพันธุ์ของดอกบัว

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและเรือนพรรณไม้อื่นๆอีกมากมายให้ท่านได้เยี่ยมชม ศึกษานิทรรศการโลกมหัศจรรย์ของผึ้งและสาธิตให้ความรู้ทางพืชธรรมชาติวิทยา ได้อย่างน่าสนใจ

และอีกไฮไลท์สำคัญของที่นี่ ก็คือ Canopy Walkway หรือ ทางเดินลอยฟ้า เป็นจุดยอดฮิตอีกจุดหนึ่ง ที่เหล่าบบรรดาฮิปสเตอร์ไม่ควรพลาดเลยที่จะต้องมาถ่ายรูป หากมาที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ที่มีความสูงและยาวที่สุดในประเทศไทย สามารถชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติได้แบบ 360 องศา มีจุดชมวิวจากระเบียงยื่นออกไปด้านข้างและรั้ว เป็นกระจกใสสามารถมองลงไปด้านล่างได้ มีความปลอดภัยระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นท้าทาย

การเข้าชม Canopy Walkway ไม่เสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ต้องนำบัตรผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราที่หน้าทางเข้า

การเข้าชม

เวลาทำการ :            ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น.

ช่วงเวลาเที่ยว :         ตลอดทั้งปี

ค่าเข้าชม

  • ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท, นักเรียน/นักศึกษา 10 บาท
  • ผู้สูงอายุเกิน 60 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พระภิกษุสามเณร และผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม
  • ค่ารถบริการนำชมสวน ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท
  • รถบัส คันละ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท

 

การเดินทาง

รถยนต์

จากตัวเมืองเชียงใหม่

เส้นทางรถยนต์ไปอำเภอแม่ริม เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 107 (แม่ริม-สะเมิง) ผ่านปางช้างแม่สา ตรงหลักกิโลเมตรที่ 12 รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ 27 กิโลเมตรก็จะถึงสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

จาก อ.แม่ริม

ใช้ทางหลวงหมายเลข 1096 (แม่ริม-สะเมิง) ประมาณ 12 กม. สวนพฤกษาศาสตร์พระนางเจ้าสิริกิตติ์อยู่ทางซ้ายมือ

 

เรียบเรียงโดย น.ส.ธัญญารัตน์ ยาวิละ และ น.ส.พรนิภา ไชยสถาน

นักศึกษาฝึกงานโปรแกรมวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น