เตรียมมาตรการลดผลกระทบ หลังอินโดฯห้ามเข้าลำไยไทย

“พาณิชย์”หารือภาครัฐและเอกชน เตรียมมาตรการลดผลกระทบ หลังอินโดนีเซียประกาศห้ามเข้าลำไยในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. เตรียมหยิบประเด็นขึ้นหารืออินโดนีเซีย เพื่อให้ทบทวน พร้อมแจ้งเกษตรกร ผู้ส่งออกเตรียมตัว และทำแผนรับมือ ทั้งดันแปรรูป กระตุ้นการบริโภคในประเทศ และหาตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เชิญผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมการค้าต่างประเทศ มาหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากกรณีที่กระทรวงเกษตรอินโดนีเซียได้ออกตารางการนำเข้าสินค้าพืชสวนปี 2561 โดยกำหนดพืชสวนที่สามารถนำเข้าอินโดนีเซียได้ในเดือนต่างๆ จะต้องไม่ตรงกับฤดูกาลผลไม้ของอินโดนีเซีย และจะมีการห้ามนำเข้าลำไยในเดือนก.ค.-ส.ค.2561 ซึ่งตรงกับช่วงที่ไทยมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดมาก
โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหา เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศจะหยิบยกข้อกังวลของไทยขึ้นหารือกับอินโดนีเซียในโอกาสต่างๆ เพื่อขอให้อินโดนีเซียพิจารณาทบทวนมาตรการเหล่านี้
ส่วนมาตรการรับมือภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ จะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรไทย เพื่อรับมือปัญหาลำไยที่อาจล้นตลาดในช่วงเดือนที่อินโดนีเซียห้ามนำเข้าดังกล่าว ทั้งการประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยได้ทราบข้อมูลเพื่อเตรียมการปรับตัว การสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปลำไยในหลากหลายรูปแบบ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการบริโภคลำไยในประเทศ ส่งเสริมให้เกษตรกรนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับปรุงคุณภาพและผลิตลำไยนอกฤดูกาล และเจรจาขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพเพื่อระบายลำไยไทย เป็นต้น
สำหรับอินโดนีเซียเป็นตลาดส่งออกลำไยที่สำคัญของไทยรองจากจีน และอินโดนีเซียนำเข้าลำไยสดจากไทยเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี โดยในปี 2559 ไทยส่งออกลำไยไปอินโดนีเซียเป็นจำนวน 54.69 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 50.44 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 11 เดือนของปี 2560 (ม.ค.–พ.ย.) ไทยส่งออกลำไยไปอินโดนีเซียเป็นจำนวน 88.40 ล้านกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 75.74 ล้านเหรียญสหรัฐ

ร่วมแสดงความคิดเห็น