ไหว้พระ 9 วัด อิ่มบุญ เสริมสร้างสิริมงคล กับวัดดังน่าเที่ยวในเชียงใหม่

เริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยการรับสิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต กับการเดินทางไปสักการะบูชาและไหว้พระ 9 วัดดังในเชียงใหม่ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลในชีวิต ทั้งอิ่มบุญ และอิ่มอกอิ่มใจตลอดทริปการเดินทาง พร้อมกับชมประติมากรรมอันสวยงามของวัดในเมืองเชียงใหม่ ซึ่งโดดเด่นไม่แพ้จังหวัดใดเลย

 

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

หากนึกถึงวัดในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว วัดแรกคงไม่พ้น “ดอยสุเทพ” หรือ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งขึ้นชื่อในจังหวัดเชียงใหม่ หากมาเชียงใหม่แล้วไม่ไปเที่ยวดอยสุเทพถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ ซึ่งวัดพระธาตุดอยสุเทพนี้ เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่สมัยโบราณ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา หรือในรัชสมัยของพระเจ้ากือนานั่นเอง พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่เก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่โดยทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐานซึ่งช้างมงคลได้เดินทางมาถึงบนยอดดอยสุเทพนี้ ก็ร้องสามครั้งพร้อมกับทำประทักษิณสามรอบแล้วล้มลง จึงได้อัญเชิญพระบรมสารริกธาตุมาประดิษฐานได้แล้วสร้างเจดีย์ครอบไว้บนนั้น

ระยะทางขึ้นดอยสุเทพนั้นจะเป็นทางขึ้นเขาซึ่งอาจจะมีความคดเคี้ยวอยู่บ้างแต่เมื่อถึงจุดหมายแล้วถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทางจริงๆ เพราะระหว่างทางขึ้นนั้นจะมีจุดชมวิวของเมืองเชียงใหม่อยู่สองจุด จะเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน และทางขึ้นไปยังพระธาตุดอยสุเทพนั้นเป็นบันไดนาค 306 ขั้น ซึ่งทางขึ้นเป็นบันไดนาคหลวงอยู่สองข้างทาง นอกจากนี้ยังมีวิหารที่มีประติมากรรมที่สวยงามอยู่คู่กับพระธาตุอีกด้วย เชื่อกันว่าหากได้ขึ้นมาสักการะบูชาที่พระธาตุดอยสุเทพนี้แล้วจะทำให้สิ่งที่ปรารถนานั้นสำเร็จดังที่หวังไว้ และพระธาตุดอยสุเทพยังเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตร ของปีมะแมด้วย นอกจากผู้ที่เดินทางสักการนั้นจะอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ยังได้ชมความงดงามของพระธาตุ เจดีย์สีทองอร่ามตา และพระพุทธรูปอีกมากมาย ที่ดอยสุเทพนี้

การเดินทาง เส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังดอยสุเทพฯ จะใช้เส้นทางถนนห้วยแก้ว-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่ขึ้นไปตามทางขึ้นเขา มีป้ายบอกทางขึ้นไปชัดเจน หรือสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางขึ้นไปก็ได้

 

วัดพระธาตุดอยคำ

“วัดพระธาตุดอยคำ”แต่เดิมชื่อว่า วัดสุวรรณบรรพต เป็นอีกหนึ่งวัดที่ขึ้นชื่อและศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอพร ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่มีผู้คนนิยมเดินทางไปสักการบูชากันอย่างล้นหลาม วันพระธาตุดอยคำเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ถึง 1,300 ปี ตั้งอยู่ในบริเวณดอยคำ แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างแต่แล้วเมื่อกรุแตกชาวบ้านจึงได้พบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน)  ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ วัดพระธาตุดอยคำจึงได้มีการบูรนะขึ้นใหม่ ซึ่งมีตำนานเล่าว่า พระธาตุดอยคำเคยเป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์สองผัวเมีย ชื่อ จิคำและตาเขียวมาก่อน ซึ่งชาวบ้านได้เรียกยักษ์สองตนนี้ว่า “ปู่แสะ – ย่าแสะ” ปู่แสะย่าแสะมีลูก 1 คน ชื่อว่า “สุเทวฤๅษี” เหตุที่ได้ชื่อว่าดอยคำ เนื่องจากศุภนิมิตที่ยักษ์ทั้งสองได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า เกิดฝนตกหนักหลายวัน ทำให้น้ำฝนเซาะและพัดพาแร่ทองคำบนไหล่เขา และลำห้วยไหลลงสู่ปากถ้ำเป็นจำนวนมาก จึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ดอยคำ”

รูปภาพจาก: http://www.haaksquare.com

วัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดที่มีวัตถุโบราณหลายชิ้นซึ่งมีพระนำมาประดิษฐานไว้ให้สักการะ จุดเด่นสำคัญในวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้คือ หลวงพ่อทันใจ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์และการบนบาน จึงมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้าไปสักการะ และบนบานขอพร โดยเมื่อได้สมดั่งที่ใจปรารถนาแล้วจึงจะกลับมาพร้อมดอกมะลิ เพื่อมาแก้บน ตามที่เคยกล่าวบนบานไว้ นอกจากนี้ยังมีลานจุดชมวิวที่สวยงามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูป หรือชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของอุทยานหลวงราชพฤกษ์รวมไปถึงตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย รับรองว่าหากได้เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้แล้วจะไม่เสียใจ ทั้งได้ชมวัตถุโบราณที่เก่าแก่ ทำบุญ และสักการะพระธาตุแล้ว ยังได้ขอพรจากหลวงพ่อทันใจอีกด้วย นับว่าคุ้มค่าและเป็นสิริมงคลอย่างมากที่ได้เดินทางมายังที่แห่งนี้

รูปภาพจาก: http://www.haaksquare.com

 

การเดินทาง

เดินทางตามเส้นทางสี่แยกสะเมิง ถนนเชียงใหม่ – หางดง ไปตามเส้นทางเรียบคลองชลประทาน จะมีป้ายบอกข้ามคลองไปทางตำบลแม่เหียะ ไปทางเดียวกับสวนราชพฤกษ์ หรือเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และศูนย์วิจัยเกษตรฯ

การเดินทางขึ้นไปบนวัดพระธาตุดอยคำ

มี 2 ทาง คือ ทางซ้ายจะเป็นทางขึ้นโดยรถยนต์ซึ่งมีบริการรถสองแถวอยู่ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเดินขึ้นโดยบันได

 

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

เป็นวัดที่มีความเก่าแก่อีกวัดหนึ่งในเชียงใหม่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์พระเจดีย์ที่สำคัญในเชียงใหม่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย มีการบูรณะมาหลายสมัยแล้ว แต่เดิมมีชื่อว่า โชติการามวิหาร แปลว่า พระอารามที่มีแต่ความรุ่งเรืองสว่างไสว เนื่องจากเป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในกาลครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราช ส่งสมณะทูต 8 รูป ภายใต้การนำพระโสณะ และ พระอุตตะระ เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในเขตสุวรรณภูมิ และได้นำเอาพระบรมธาตุมาบรรจุไว้ในองค์เจดีย์องค์เล็กสูง 3 ศอก ที่สร้างขึ้น ณ บริเวณอันเป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์หลวงในปัจจุบัน

วัดเจดีย์หลวงเป็นวัดโบราณที่สวยงามและน่าสนใจมาก ซึ่งจุดเด่นของวัดนี้คือ เจดีย์หลวงที่มีประติมากรรมอันเก่าแก่ พลาดไม่ได้ที่จะเดินทางไปยังที่แห่งนี้ ทั้งเยี่ยมชมและสักการะพระเจดีย์หลวง มีวิหารหลวงที่มีบันไดนาคอันงดงามเลื้อยอยู่สองข้างทางและในวิหารยังมีพระพุทธรูปที่งดงามตั้งอยู่มากมายเพื่อให้ผู้คนเข้าไปกราบไหว้บูชา แล้วยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองที่สร้างด้วยไม้ซุงขนาดใหญ่ฝังอยู่ใต้ดิน ประดิษฐานอยู่ในวิหารจัตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะอีกมาก และได้ชมความงดงามของประติมากรรมต่างๆ ภายในวัดอีกมากมาย

การเดินทาง

ตั้งอยู่ถนนปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเดินทางไปได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งวัดเจดีย์หลวงอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ไม่ไกลจากวัดพระสิงห์ และสามารถนั่งรถสองแถวสีแดงที่ให้บริการรอบเมือง ค่าโดยสารแล้วแต่ระยะทาง

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

เป็นอีกวัดหนึ่งที่สำคัญในเชียงใหม่ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ และยังมีสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงาม แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดพระเชียง” ต่อมาบริเวณหน้าวัดมีตลาดเกิดขึ้นชาวบ้านเรียกว่า “ตลาดลีเชียง” นานเข้าจึงเรียกวัดว่า “วัดลีเชียง” นานเข้าจึงเรียกวัดว่า “ วัดลีเชียงพระ ” ระหว่างปี พ.ศ. ๑๙๓๑ – ๑๙๕๔ สมัยพญาแสนเมืองมาครองนครเชียงใหม่โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากเชียงรายมาเชียงใหม่ทางเหนือนิยมเรียก “ พระพุทธสิหิงค์ ” เรียกสั้นๆ ว่า “ พระสิงห์ ” จึงเรียกชื่อวัดตามพระพุทธรูปว่า “ วัดพระสิงห์ ”

ภายในวัดพระสิงห์นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจและงดงามมากมายทั้ง โบสถ์ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตกแต่งโดยแบบศิลปะล้านนาที่มีความสวยงามสามารถเข้าไปกราบไหว้พระพุทธรูปได้  และหอไตร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ เป็นฝีมือช่างสมัยพระเมืองแก้ว ประมาณ พ.ศ. 2476 ปั้นเป็นลายลูกฟักลดบัว ภายในประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์ และนอกจากนี้ยังมี วิหารลายคำที่แสดงถึงความประณีตของลายปูนปั้นที่สวยงามมีรูปปั้นพญานาคสองตัวอยู่ตรงบันไดหน้า ภายในจะเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสิหิงค์”ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปสักการะได้ และภายในวิหารจะมีภาพจิตรกรรมเขียนเรื่องสังห์ทองด้วย มีความงดงามน่าชมและเป็นที่สนใจมากซึ่งต้องเข้าไปสักการะ และเยี่ยมชมสักครั้งเมื่อมาถึงเมืองเชียงใหม่

การเดินทาง

วัดพระสิงห์จะอยู่ใกล้ๆกับ วัดเจดีย์หลวง สามารถเดินทางไปได้โดยรถยนต์ส่วนตัวอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ และสามารถนั่งรถสองแถวสีแดงที่ให้บริการรอบเมือง ค่าโดยสารแล้วแต่ระยะทาง

วัดสวนดอก

วัดสวนดอกหรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดบุปผาราม เป็นวัดที่มีความน่าสนใจอีกวัดหนึ่งในเชียงใหม่ซึ่งเป็นวัดที่มีความเก่าแก่อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่และอาณาจักรล้านนามานานกว่า 600 ปีมาแล้ว ซึ่งในอดีตนั้น วัดสวนดอกเคยเป็นสวนดอกพยอม ซึ่งพระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์เม็งราย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็น “พระอารามหลวง” เพราะการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้

ภายในวัดนั้นมีจุดเด่นสำคัญที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้เลย คือ พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาเป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ แห่งราชวงศ์เม็งราย เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งผู้ที่มายังวัดสวนดอกนี้จะต้องมากราบไหว้พระเจดีย์นี้ อีกไฮไลท์สำคัญที่ผู้ที่มาจะต้องเข้าไปกราบไหว้คือ พระเจ้าเก้าตื๊อเป็นพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ สร้างด้วยโลหะหนัก 9 โกฏิตำลึง อยู่ในพระอุโบสถ และยังมีพระเจ้าค่าคิง ที่มีขนาดเท่าพระวรกายของพระเจ้ากือนาเป็นพระประธานในวิหารหลวงที่เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา ซึ่งสามารถเข้ามากราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เข้ามาเยือน นอกจากนี้ยังมี กู่ของเจ้านายฝ่ายเหนือ ที่ รวบรวมพระอัฐิของ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และพระประยูรญาติ มาประดิษฐานรวมกัน ณ ที่นี้ เป็นสถานที่เก่าแก่โดยได้ชื่อเป็นโบราณสถานด้วย ซึ่งผู้ใดต้องการมาไหว้พระทำบุญในเชียงใหม่นั้น พลาดไม่ได้เลยที่จะมายังวัดสวนดอก เพราะนอกจากจะได้ขอพรจากพระเจ้าเก้าตื๊อแล้ว ยังได้ชมความงามของประติมากรรมในที่แห่งนี้ด้วย

การเดินทาง

วัดสวนดอก ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ เยื้องกับวัดแสนฝาง อำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ สามารถเดินทางไปได้โดยรถส่วนตัว หรือรถประจำทางรอบเมืองได้

วัดหมื่นสาร

เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่อีกวัดหนึ่ง ซึ่งไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนสักครั้งเพราะเป็นวัดที่มีประติมากรรมที่โดดเด่น ในอดีตวัดแห่งนี้เคยเป็นคลังเก็บเสบียง อาวุธ และเป็นที่พักสำหรับทหารบาดเจ็บของกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังกองทัพญี่ปุ่นแพ้สงคราม จึงนำอาวุธสงครามหลายชิ้นทิ้งลงในน้ำบ่อหลวงภายในวัด ฯลฯ

วัดหมื่นสารเป็นวัดที่มีประติมากรรมสวยงาม เมื่อเข้ามาแล้วพลาดไม่ได้ที่จะมากราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ที่ตั้งอยู่ในวัด และมีพระเจดีย์ที่เก่าแก่ เป็นองค์เจดีย์ทรงปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาทั้ง 4 มีบันไดขึ้นเฉพาะทิศตะวันออกเพื่อขึ้นไปสรงน้ำพระบนพระธาตุ และเยี่ยมชมหอศิลป์เครื่องเงิน หรือ หอศิลป์สุทฺธจิตฺโต ซึ่งเป็นหอศิลป์ที่ทำด้วยโลหะเงิน ดุนลายโลหะทั้งภายในและภายนอก ภายในมีหุ่นขึ้ผึ้งรูปเหมือน 3 ครูบา ที่ชาวบ้านเคารพได้แก่ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ครูบาอินตา  อินทปัญโญ (ครูบาอินต๊ะ)  และพระครูโอภาสคณาภิบาล (ครูบาบุญปั่น  ปุญญาคโม)  อดีตเจ้าอาวาสวัดหมื่นสาร ซึ่งสามารถเข้าไปกราบหุ่นขี้ผึ้งครูบาและเยี่ยมชมความงดงามภายในหอศิลป์ได้

การเดินทาง

วัดหมื่นสาร ตั้งอยู่ที่ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ สามารถเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางรอบเมืองก็ได้

วัดโลกโมฬี

วัดโลกโมฬีเป็นวัดที่เก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างแต่ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่  สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัย พระเจ้ากือนา กษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์เม็งราย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม มีอายุกว่า 600 ปี

รูปภาพจาก: http://www.thongthailand.com

ภายในวัดเป็นประติมากรรมที่มีความเก่าแก่และสวยงามหากผู้ใดผ่านมาที่วัดโลกโมฬีก็อยากเข้าไปแวะชมกันทั้งนั้น เพราะตั้งแต่ซุ้มประตูก็จะมีความสวยงามน่าเข้าไปเยี่ยมชมมาก ภายในวัดจะมีเจดีย์ทรงปราสาทที่มีความสูงและเก่าแก่มาก และมีวิหารหลวง เป็นวิหารไม้สักแบบศิลปะล้านนา มีลายแกะสลักอย่างสวยงาม ภายในวิหารจะมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ พระพุทธรูปมีนามว่า “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” และยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนพระเมาลีด้วย เพื่อให้ผู้ที่เข้าไปเยี่ยมชมได้ไปสักการบูชาและขอพรได้ นอกจากนี้ ในวัดโลกโมฬียังมี หอมณฑปพระนางเจ้าจิรประภามหาเทวี ภายในประดิษฐานพระรูปของพระนางจิระประภา  มหาเทวี เพื่อให้คนรุ่นหลังได้สักการะ และรำรึกถึงคุณความดีของพระองค์ และยังได้ชมความงามของกุฏิพระสงฆ์และกุฏิสมเด็จ ที่ลักษณะต่างจากกุฏิทั่วไปเพราะเป็นประติมากรรมที่งดงามแบบล้านนาให้เยี่ยมชมและถ่ายภาพได้

การเดินทาง

วัดโลกโมฬีตั้งอยู่ถนนมณีนพรัตน์ ตำบลศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ติดกับปั๊ม ปตท. สามารถเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางรอบเมืองก็ได้


วัดเชียงมั่น

เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเชียงใหม่ เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในเขตกำแพงเมืองเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสําคัญของเชียงใหม่ คือ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงใหม่ นอกจากวัดเชียงมั่นจะมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาอีกด้วย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความน่าสนใจอีกสถานที่หนึ่งในเชียงใหม่

ภายในวัดเชียงมั่นนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ “พระแก้วขาว” หรือ พระเสตังคมุณี พระพุทธรูปหินขาวใส ปางมารวิชัย ศิลปะสมัยละโว้ ซึ่งหากผู้ใดได้มาสักการะบูชาก็จะช่วยปกป้องคุ้มครอง นอกจากนี้ ภายในวัดเชียงมั่นยังเป็นสถานที่รวบรวมโบราณสถานมากมาย ได้แก่ วิหารหลวง ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา มีความเก่าแก่และสวยงาม และเจดีย์ช้างล้อม ฐานเจดีย์สี่เหลี่ยมมีรูปปั้นช้างล้อมอยู่ เจดีย์ทรงกลมผสมสี่เหลี่ยมรอบเจดีย์ปิดทองเหลืองอร่าม ถือว่าหากได้เข้ามายังที่แห่งนี้จะไม่มีผิดหวังแน่นอน และยังมีหอครูบาศรีวิชัยประดิษฐานรูปเหมือนครูบาศรีวิชัย ให้สักการะอีกด้วย

การเดินทาง

วัดเชียงมั่น เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณถนนราชภาคินัย อำเภอเมืองเชียงใหม่  ใช้เส้นทางเดียวกับวิ่งเข้าคูเมืองด้านในซึ่งเป็น ทาง One way สามารถเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางรอบเมืองก็ได้

วัดชัยมงคล

วัดชัยมงคล แต่เดิมเป็นวัดมอญมีชื่อว่า วัดมะเล่อ หรือ มะเลิ่ง ซึ่งมีความหมายว่า รุ่งแจ้ง หรือ รุ่งอรุณ เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนมีอายุราวๆ 600 ปี ภายในวัดจะมี “พระพุทธชัยมงคล”  รูปปางมารวิชัยก่ออิฐ หรือ ลงรักปิดทอง เป็นพระประธานภายในวิหาร ซึ่งจำลองแบบมาจากฝาผนังหลังด้านพระประธาน มี “ธรรมมาสน์” ไม้สักแกะสลักรูปนาค 7 เศียร สร้างในปี พ.ศ. 2476 มี “พระพุทธรูปไม้สักปางเปิดโลก” มีอายุประมาณ 500 ปี และมีเจดีย์อยู่ภายในวัดจะมีความเก่าแก่และสวยงามซึ่งเป็นศิลปะ พม่า-มอญ นอกจากนี้บริเวณแม่น้ำปิงที่อยู่ด้านหลังของวัดชัยมงคล ยังมีท่าน้ำซึ่งมีไว้สำหรับทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ที่สามารถหาซื้อไปปล่อยได้ตรงบริเวณติดประตูในวัด มีความเชื่อว่าหากได้เข้าไปไหว้พระทำบุญที่วัดชัยมงคลแห่งนี้ ก็จะทำให้ชีวิตมีแต่ความมงคลดังชื่อวัด

เป็นอีกวัดที่ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปเยี่ยมชมประติมากรรมที่สวยงามภายในวัด และเข้าไปสักการะพระพุทธรูปและพระเจดีย์เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับตนในวันปีใหม่นี้ด้วย

การเดินทาง

วัดชัยมงคล ตั้งอยู่ถนนเจริญประเทศ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ วัดชัยมงคล เปิดทุกวัน เวลา 05.00-19.00น. สามารถเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวหรือรถโดยสารประจำทางรอบเมืองก็ได้

มาทำบุญไหว้พระ สักการะพระธาตุ 9 วัด อิ่มทั้งบุญสุขทั้งใจ กับเมืองแห่งประวัติศาสตร์ “เมืองเชียงใหม่”

เรียบเรียงโดย นางสาว ธัญญารัตน์ ยาวิละ นักศึกษาฝึกประสบการณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น