ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ออกหนังสือชี้แจง ยันทุกกรณีมีความโปร่งใส

ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ออกหนังสือชี้แจงกรณีฉาว หลังกลุ่มนักเรียนแจ้งความร้องทุกข์ตรวจสอบ และมีหลักฐานพบความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น เกี่ยวการเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยง และปลอมแปลงลายเซ็นของนักเรียน ยันทุกกรณี มีความโปร่งใส และเกิดจากการสร้างสถานกาณ์ก่อให้เกิดความปั่นป่วน ความแตกแยกภายในวิทยาลัยเท่านั้น

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 ได้มีกระแสข่าวที่ว่ากลุ่มนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ จะมีการนัดหมายกันที่จะชูป้ายประท้วงและขับไล่ผู้บริหาร หลังจากที่ตรวจสอบและมีหลักฐานพบว่า น่าจะมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นเกี่ยวการเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยง โดยนำรายชื่อนักเรียนไปใช้ และมีการปลอมแปลงลายเซ็นของนักเรียน ที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.61 ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วก่อนหน้านั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือราชการเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และไขข้อข้องใจเกี่ยวกับกรณีการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง และข้อกล่าวหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร โดยระบุใจความว่า “ตามที่ได้มีบุคคลพยา ยามสร้างสถานการณ์ ที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วน ความแตกแยกภายในวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1-2 ก.พ.61 นั้น

วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ขอชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงในกรณี การเดินทางไปราชการแสดงงาน 60 ทศวรรษ ยาตราเมืองแพร่ ระหว่างวันที่ 15-17 มี.ค.60 ณ สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (สวนหลวง) อ.เมือง จ.แพร่ นั้น ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผอ.วิทยาลัยฯ ไม่ได้เดินทางไปงานดังกล่าว เนื่องจากติดภารกิจสำคัญในการสอบศิลปนิพนธ์นักศึกษาปริญญาตรีปีที่ 4 ณ ห้องประชุม 1 วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปอยู่ในเหตุการณ์การปลอมแปลงเอกสารที่ผู้กล่าวหาบิดเบือนข้อเท็จจริง อันเป็นเท็จที่ จ.แพร่

ส่วนกรณีที่ วิทยาลัยฯ ถูกบิดเบือนข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จว่า ปลอมแปลงเอกสารการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงนักเรียน นักศึก ษา นั้น ความจริงคือ เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทางวัฒนธรรม จ.แพร่ ขอให้ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมวิทยาลัยฯ เขียนชื่อให้ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้เบื้องต้นว่า มีจำนวนผู้ปฏิบัติงานประมาณ 100 คน แต่เมื่อเดินทางไปปฏิบัติงานจริงมีเพียง 74 คน และเนื่องจากทางวัฒนธรรม จ.แพร่ มีความเมตตาอนุเคราะห์ในการจัดอาหารเลี้ยงคณะผู้แสดง ซึ่งตามระเบียบการเบิกจ่ายค่าอาหารก็จะคิดเป็นรายหัว เมื่อผู้ปฏิบัติงานไปไม่ครบตามจำนวนที่แจ้ง ทางวัฒนธรรม จ.แพร่

จึงขอให้เขียนชื่อให้ครบเพื่อดำเนินการตามระเบียบ ในส่วนการเบิกจ่ายของวัฒนธรรม จ.แพร่ ไม่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายของทางวิทยาลัยฯ แต่ประการใด เพราะในส่วนการเบิกจ่ายทางวิทยาลัยฯนั้น วิทยาลัยฯดำเนินการเบิกจ่ายตามความเป็นจริงคือ ไปปฏิบัติงานเพียง 74 คน ก็เบิกจ่ายเพียง 74 คนเท่านั้น และดำเนินการถูกต้องตามระเบียบราชการทุกประ การ

ขณะเดียวกัน กรณีการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงว่าทำไมไม่ได้ จำนวน 300-บาท/วันนั้น ตามระเบียบการจัดเก็บและใช้จ่ายเงินรายได้ค่าบริการทางวิชาการ ของวิทยาลัยฯกำหนดการเบิกจ่าย ” ประเภทค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ได้แก่ อัตราค่าตอบแทนสำหรับผู้แสดง ผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วย อัตราเบิกจ่ายค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานภายในจังหวัด ไม่น้อยกว่า 100.- บาท และไม่เกิน 300.-/รอบ/วัน และ อัตราเบิกจ่ายค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานต่างจังหวัด ไม่น้อยกว่า 101.- และไม่เกิน 500.- บาท/รอบ/วัน…” ซึ่งในการไปปฏิบัติราชการในครั้งนี้ วิทยาลัยฯ ได้เบิกจ่ายให้ตามระเบียบการเดินทางไปราชการของกรมบัญชีกลาง คือในอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงคนละ 240.- บาท/วัน ถูกต้องตามระเบียบราชการทุกประการ

ส่วนกรณีนักเรียน นักศึกษาจำนวน 6 คน ถูกกลุ่มผู้ลวงล่อไปแจ้งความ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.61 ณ จ.แพร่ โดยไม่มีการขออนุญาตผู้ปกครองและเดินทางไปในเวลาราชการ ประมาณ 14.00 น. เดินทางกลับมาถึง จ.เชียงใหม่ เวลาประ มาณ 01.00 น. นั้น ทีมงานผู้บริหาร, ทีมงานสโมสรนักศึกษา, ทีมงานสภานักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมการประชุมชี้แจงข้อเท็จจริง แลกเปลี่ยน ปรับความเข้าใจ คลี่คลายสถานการณ์การเข้าใจ ที่คาดเคลื่อนภายในวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.61 เวลา 14.00 น. ณ ห้องเทคโนโลยีการศึกษา และนักเรียนจำนวน 2 คนที่ไปแจ้งความ ได้สารภาพความจริงว่าทำไปโดยเข้าใจผิดฟังความข้างเดียว รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อเห็นหลักฐานการเบิกจ่ายของวิทยาลัยฯ จึงเข้าใจและทราบถึงข้อเท็จจริง ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ขอโทษครู อาจารย์ พี่ๆ และเสียใจในการกระทำของตนครั้งนี้

วิทยาลัยฯ ได้ประชุมชี้แจงนักเรียน นักศึกษา ทุกระดับของวิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 เวลา 08.00 น. – 12.00 น. ณ โรงละครวิทยาลัยฯ ซึ่งนักเรียน นักศึกษา เข้าใจ และสอบถามข้อข้องใจต่างๆ ซึ่งครูก็ได้ชี้แจงตามเหตุผลความเป็นจริง เหตุการณ์ก็เข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ได้มีการชุมนุมเพื่อทำให้เกิดความเสียหาย และความเสื่อมเสียชื่อเสียงของวิท ยาลัยฯ แต่อย่างใด

สำหรับภาพที่ปรากฏในสื่อต่างๆนั้น เป็นการสร้างสถานการณ์ของครูและกลุ่มบุคคลภายนอก แค่เพียง 4-5 คนเท่านั้น รายละเอียดตามเอกสารที่แนบ จำนวน 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1. เอกสารระเบียบการจัดเก็บและใช้จ่ายเงินรายได้ค่าบริการทางวิชาการของวิทยาลัยฯ 2. เอกสารการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายเงินในงาน 60 ทศวรรษ ยาตราเมืองแพร่ 3. เอก สารบันทึกการประชุมวันที่ 1 ก.พ.61 4. เอกสารบันทึกการประชุมวันที่ 2 ก.พ.61

ร่วมแสดงความคิดเห็น