ททท.ชวนธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่รุกตลาดตะวันออกกลาง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อ “ตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลทางการตลาด รวมทั้งโอกาสในการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้ และเชิญชวนให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ในภาคเหนือ ให้ความสนใจ และหันมามองโอกาส และความท้าทาย รวมทั้งร่วมกันก้าวข้ามความท้าทายเพื่อทำให้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง กลายเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับภาคเหนืออีกตลาดนึงในอนาคต

นางภัทรพร สิทธิวนิช ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปและตะวันออกกลาง ททท. กล่าวว่า “ในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 6 แสน คน โดยมีอิหร่านและสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ (UAE) เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค โดยนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางส่วนใหญ่ ร้อยละ 65 เป็นผู้ที่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วคนละหลายครั้ง รู้จักแหล่งท่องเที่ยวหลักในประเทศไทยเป็นอย่างดี

โดยมีกรุงเทพ ภูเก็ตและพัทยาเป็นจุดหมายหลัก ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ซ้ำกันบ่อยๆ ก็อาจมองหาแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่น่าสนใจทดแทน ททท. จึงพยายามเปิดพื้นที่ใหม่ให้เป็นจุดหมายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางโดยมีเชียงใหม่เป็นเป้าหมายหลัก เพราะนอกจากจะมีความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศไทยที่เป็นที่นิยมของชาวตะวันออกกลางแล้ว ปัจจุบันยังมีสายการบินหลักคือกาตาร์แอร์เวย์ส ที่เปิดเส้นทางบินตรงจากกรุงโดฮาประเทศกาตาร์มาที่เชียงใหม่สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบินซึ่งถือเป็นโอกาสในการรุกตลาดตะวันออกกลางของชาวเชียงใหม่อีกด้วย”

“ความน่าสนใจของตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางสำหรับชาวเชียงใหม่และภาคเหนือโดยรวมอยู่ตรงที่ แม้จะยังเป็นตลาดเล็กๆ เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวกระแสหลักจากภูมิภาคอื่น แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนของนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักภูมิภาคนี้ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นมาก โดยเราไม่จำเป็นต้องเน้นจำนวนนักท่องเที่ยวมากๆ แต่ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท่องเที่ยวท้องถิ่นได้ดี”

“นอกจากนี้ ในขณะที่นักท่องเที่ยวกระแสหลักจากตลาดใหญ่จะเดินทางหนีหนาวเข้ามาท่องเที่ยวไทยในช่วงฤดูหนาวปลายปี ซึ่งเป็นช่วง High Season ของเชียงใหม่ แต่นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางกลับมีฤดูกาลท่องเที่ยวที่ต่างออกไป คือนิยมเดินทางในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงหลังรอมอฎอน ที่ภูมิภาคตะวันออกกลางมีอากาศร้อนมากและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางหนีร้อน มาหาที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่มีอากาศเย็นสบายกว่า ซึ่งช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงต้นฤดูฝนที่เชียงใหม่และภาคเหนือของเรามีอากาศเย็นสบายและมีภูมิประเทศที่ชุ่มชื่น และเป็นช่วง Low Season ที่มีท่องเที่ยวไม่มากนัก การได้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาเสริมในช่วงนี้ก็อาจทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่นคึกคักขึ้นมาได้บ้าง”

นางภัทรพร กล่าวเสริมว่า “กิจกรรมในวันนี้เป็นการให้ข้อมูลที่จำเป็นเชิงการตลาดและเตรียมความพร้อมแบบ ‘รู้เขา รู้เรา’ ให้กับผู้ประกอบธุรกิจท้องถิ่นในภาคเหนือให้รู้จักอุปนิสัยใจคอ อาหารการกิน ความชอบในการเดินทางท่องเที่ยวและเพื่อจะได้เตรียมสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับรสนิยมของชาว

ตะวันออกกลางเพื่อนำเสนอขายในตลาดต่อไป”
ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยรวม 616,618 คน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ในอัตราร้อยละ 5 โดยมีค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวประมาณ 43,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ในอัตราร้อยละ 7.8 ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางมีวันพักเฉลี่ยในประเทศไทยทริปละประมาณ 12 วัน มากกว่าค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาพักประมาณครั้งละ 9.5 วัน และนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศภูมิภาคนี้ได้แก่ UAE, กาตาร์, โอมาน, บาห์เรน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวต่อวันในระหว่างที่พำนักอยู่ในประเทศไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจาก UAE และกาตาร์ ที่ใช้จ่ายมากกว่าวันละ 8,500 บาท มากกว่าค่าเฉลี่ยที่อยู่ที่วันละ 5,264 บาท

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานดูไบผู้รับผิดชอบตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง มีแผนทำกิจกรรมให้ความรู้เพื่อส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางในลักษณะเดียวกันนี้ กับพื้นที่อื่นในประเทศไทย โดยเป้าหมายต่อไปคือจังหวัดในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางกลุ่มเดินทางซ้ำพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพอื่นๆนอกเหนือจากกรุงเทพภูเก็ตและพัทยาซึ่งเป็นที่นิยมอยู่แล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น