ไม่เห็นดอยแล้ว! เชียงใหม่เช้านี้ ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาแน่น ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้แล้ว

หมอกควันเริ่มปกคลุ่มพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่แล้ว บนจุดชมวิวดอยสุเทพ เริ่มมองไม่เห็นทิวทัศน์ในตัวเมือง ขณะที่ค่าฝุ่นละอองเริ่มน่าห่วง ด้านจังหวัดขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ดูแลพื้นที่ห้ามเผา พร้อมประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยรองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน บูรณาการอย่างเข้มแข็ง และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมกำชับจะต้องไม่กระทบสุขภาพ และเศรษฐกิจในเชียงใหม่

วันที่ 14 ก.พ.61 รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์หมอกควันเริ่มเข้าปกคลุมตัวเมืองเชียงใหม่ ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางขึ้นไปสังเกตการณ์พบว่า จากตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อมองไปยังด้านทิศตะวันตกของเมือง พบว่ามีหมอกควันสะสมหนาตัวขึ้นจนทำให้เห็นดอยสุเทพ ได้เลือนลางเท่านั้น ซึ่งปกติจะเป็นชัดเจนจนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ และตัวองค์พระธาตุอย่างชัดเจน เมื่อสภาพอากาศปกติ

ขณะเดียวกันเมื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวของดอยสุเทพแล้ว มองลงมาด้านล่างก็พบว่าทัศนวิสัยในการมองเห็นนั้นก็ลดลงเช่นกัน โดยจะสามารถสังเกตเห็นหมอกควันสีขาวได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งดัชนีวัดคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงของความผิดปกติของสภาพอากาศ นอกจากนี้ในช่วงเช้าประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ต้องออกมาทำกิจกรรม โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถ จ.ย.ย.ก็เริ่มหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ เพื่อป้องกันสุขภาพจากฝุ่นควันที่ปกคลุมในพื้นที่อย่างหนาแน่นในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่จากการตรวจสอบรายงานสถานการณ์สภาพอากาศในขณะนี้ พบว่ายังถือว่าไม่รุนแรง และอยู่ในระดับ “เฝ้าระวัง” จากข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ จ.เชียงใหม่ ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ยังไม่สูงเกินค่ามาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ที่ในวันนี้ (14 ก.พ.61) วัดค่า PM10 อยู่ในช่วง 47-101 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และพบค่าสูงสุดในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์หมอกควันในเชียงใหม่ คาดการณ์ว่าวันที่ 15-17 ก.พ.61 ที่จะถึงนี้ สถานการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้น โดยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ ควรงดการเผาทุกพื้นที่ และควรเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

 รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ ที่ ห้องศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าฯ ประจำปีงบประมาณ 61 ครั้งที่ 3 กับ หน.ส่วนราชการ และ จนท.ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากสถานการณ์หมอกควันที่เพิ่มปริมาณ และปกคลุมพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่อยู่ในขณะนี้ ได้วางมาตรการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว

ทางด้าน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เผยสภาพลักษณะอากาศของเดือน ก.พ.อยู่ในช่วงของปลายฤดูหนาว มีมวล อากาศที่ค่อนข้างหนัก หากมีฝุ่นละอองเกิดขึ้น จะทำให้ฝุ่นละอองถูกกดอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายตัว หากมีการชิงเผาให้ทำการแจ้งนายอำเภอในพื้นที่หรือผู้รับผิดชอบก่อน ในส่วนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้จัดทำแผนที่ประเมินจุด hotspot จากการเกิดจุดความร้อนจากดาวเทียมระบบ Modis ที่ติดตั้งบนดาวเทียม Terra และ Aqua เพื่อใช้ในการวางแผนพื้นที่เฝ้าระวังไฟทั้ง 25 อำเภอ พร้อมเปิดรับแจ้งเหตุไฟไหม้ป่า ตลอด 24 ชม. โดยสามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่ 053-232019

ทั้งนี้ สำนักงาน ปภ.เชียงใหม่ ได้เตรียมมาตรการเชิงรุก ประกอบด้วย 4 มาตรการเชิงพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่การเกษตร พื้นที่ชุมชน/เมือง พื้นที่ริมทาง เพื่อกำหนดแนวทางและแบ่งมอบพื้นที่ในการป้องกันและควบคุมไฟป่า รวมถึง 4 มาตรการ ในการบริหารจัดการ ได้แก่ (1) มาตรการบริหารจัดการ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดและอำเภอ (2) มาตรการสร้างความตระหนัก ประชาสัมพันธ์ชี้แจงการห้ามเผาป่า เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงอันตรายและผลกระทบ อบรม ปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้แก่นักเรียนและเยาวชน (3) มาตรการลดปริมาณเชื้อเพลิง ให้จัดทำแนวกันไฟ และควบคุมการเผา และ(4) มาตรการประชารัฐ โดยบูรณาการทุกภาคส่วน ให้มีส่วนร่วมกับภาคราชการ กำลังทหาร และ จนท.อส. และภาคเอกชน

รอง ผวจ.ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ เรื่องผลกระทบมลพิษหมอกควันไฟป่า เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่สูงและพื้นที่ราบ ควรสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน อาทิ ร่วมกันจัดทำแนวกันไฟ สร้างฝายชะลอน้ำ และปลูกป่า เพื่อป้องกันและลดปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างจริงจังและยั่งยืนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น