เชียงใหม่ จัดสัมมนาทางวิชาการเทคโนโลยีกล้อง CCTV อัจฉริยะ และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จัดสัมมนาทางวิชาการเทคโนโลยีกล้อง CCTV อัจฉริยะ และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่ นำทุกองค์กรภาคส่วนเข้าร่วม หวังยกระดับพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ Safety zone โดยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายนำไปวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงและเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัย และป้องกันภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่โรงแรมเมอร์เคียว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.อ.ธีระ ผดุงสุนทร เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 33 พ.ต.ท.จุมพล สินศิริพงษ์ ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และตัวแทนองค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ มณฑลทหารบกที่ 33 , ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ , การการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงใหม่ , ผู้แทนชุมชนต่างๆ ทั้ง 97 ชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมการจัดสัมมนาทางวิชาการเทคโนโลยีกล้อง CCTV อัจฉริยะ และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ได้มีการจัดนิทรรศการของแต่ละหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวกับระบบกล้อง CCTV และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่ การสรุปเทคโนโลยีระบบกล้อง CCTV และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่ การนำเสนอนโยบายด้านการจัดการปัญหาการจราจรในเขตเมือง พร้อมทั้งวิสัยทัศน์ในการเชื่อมโยงกับโครงการ Safety zone ของเทศบาลนครเชียงใหม่

โดยทาง นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของผู้คนตลอด 24 ชั่วโมง นอกเหนือไปจากการใช้เทคโนโลยีในระดับบุคคลที่ทุกท่านก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เทคโนโลยีที่ทันสมัยก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารจัดการเมืองที่มีขนาดใหญ่อย่างเทศบาลนครเชียงใหม่ให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และ สะดวกรวดเร็ว

การนำเอาเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย เช่น กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ที่มีความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย สามารถตรวจจับสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าบันทึกภาพเพียงอย่างเดียว จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองเชียงใหม่ เมื่อเมืองของเรามีความปลอดภัย ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวก็จะใช้ชีวิตในเมืองเชียงใหม่ได้อย่างมีความสุข และเป็นการนำเอาเทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยมาตอบโจทย์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในอีกทางหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน ระบบขนส่งมวลชนก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้เมืองที่มีขนาดใหญ่อย่างเชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่ เพราะการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายจะเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการสัญจรเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางด้านธุรกิจอีกด้วย ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ก็มีรถเมล์ให้บริการถึง 3 เส้นทาง และผมก็เล็งเห็นว่าทางเทศบาลนครเชียงใหม่มีความตั้งใจอันดีที่จะพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างสูงสุด

ดังนั้นการเสวนาเทคโนโลยีกล้อง CCTV อัจฉริยะ และระบบขนส่งสาธารณะเทศบาลนครเชียงใหม่ในครั้งนี้ จึงนับเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบและปลอดภัยของเมืองเชียงใหม่ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของเมืองเชียงใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มาเรียนรู้ร่วมกันว่าเทคโนโลยีจะทำให้เมืองเชียงใหม่ของเราเป็น Smart City ได้อย่างไร การได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเมืองเชียงใหม่ร่วมกัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ความรู้ ความคิดเห็น ตลอดจนข้อสรุปที่เกิดขึ้นจากการเสวนาในครั้งนี้ จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งในด้านความปลอดภัยในการใช้ชีวิต และ ความสะดวกสบายในการเดินทางของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.จุมพล สินศิริพงษ์ ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ ปี เนื่องจากเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางทั้งทางเศรษฐกิจ การค้า และ การศึกษา ของภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกที่ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมหาศาลในแต่ละปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการป้องกันและป้องปรามเหตุอาชญากรรมด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ในเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เครื่องมือที่เทศบาลนครเชียงใหม่นำมาใช้ในการป้องกันและป้องปรามเหตุร้ายก็คือ การติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV อัจฉริยะในเขตพื้นที่ของเทศบาลฯ ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย สามารถเพิ่มเติมคุณสมบัติการทำงานของกล้องให้ตอบสนองความต้องการได้หลายรูปแบบ นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัย และการจัดการปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ เนื่องจากระบบนี้สามารถใช้เพื่อสังเกตการณ์สภาพการจราจร ตรวจจับการกระทำผิดกฎหมายจราจร และ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถนำภาพที่บันทึกไว้มาใช้เพื่อประกอบการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างทันท่วงที

ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ มีความยินดีที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้นำระบบกล้อง CCTV อัจฉริยะมาทดลองใช้งานในเขตพื้นที่ของเทศบาลฯ และในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เองพร้อมที่จะร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการทำให้เมืองเชียงใหม่ของเรา โดยเฉพาะท้องถนนในเมืองเชียงใหม่ เป็น Safety Zone ที่ทั้งประชาชน นักท่องเที่ยว และ ผู้มาเยี่ยมเยือนจากทั่วทุกสารทิศ จะสามารถเดินทางสัญจร ตลอดจนทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยความปลอดภัย

ส่วนทางด้าน นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจัดสัมมนาเปิดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ภายหลังจากที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่นำเอาเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย คือ ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV อัจฉริยะ เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในเขตเทศบาล เพื่อช่วยเหลือการทำงานของเจ้าหน้าที่ทั้งด้านการจราจร การป้องกันติดตามสืบสวนอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ขณะนี้มีกล้องวงจรปิดรอบเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ประมาณ 400 จุด และมีตู้แจ้งเหตุ หรือ emergency box 4 จุดที่บริเวณประตูท่าแพ วัดพระสิงห์ แยกกลางเวียง และลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งสามารถกดแจ้งเหตุจากตู้ดังกล่าวและจะแจ้งไปยังศูนย์ฝึกและควบคุมสัญญาณไฟจราจรเทศบาลนครเชียงใหม่ทันที

ขณะเดียวกันในเรื่องระบบขนส่งมวลชนก็สาธารณะ ที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เปิดให้บริการรถเมล์ 3 เส้นทาง ได้แก่ สาย B1 สถานีขนส่งอาเขต- สวนสัตว์เชียงใหม่ สาย B2 สถานีขนส่งอาเขต – ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ สาย B3 สถานีขนส่งอาเขต – ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีค่าบริการ 15 บาท สำหรับผู้ใหญ่และ 10 บาทสำหรับเด็ก โดยมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดและ GPS ที่สามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเส้นทางด้วย ซึ่งความคิดเห็นทั้งหมดที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ จะนำไปปรับปรุงพัฒนา ให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างสูงสุด มีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองเชียงใหม่ อันจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคดิจิทัลได้อีกทางหนึ่งด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น