ปอยส่างลอง งานบุญใหญ่ ของพี่น้องชาวไต

งานประเพณีปอยส่างลอง หรือในอีกชื่อหนึ่ง ประเพณีบวชลูกแก้ว เป็นประเพณีการบวชเณรให้กับบุตรหลานตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวไทยใหญ่ เป็นวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาซึ่งชาวไต หรือ ไทใหญ่ เชื่อว่า เกิดมาเป็นชายการบรรพชาหรืออุปสมบทเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ได้ใช้เวลาว่างศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนเมษายนของทุกปี
ปัจจุบันชาวไทยใหญ่มีถิ่นฐานอยู่ในหลายประเทศ ในประเทศพม่าชาวไทใหญ่อาศัยอยู่ในเขตรัฐไทใหญ่หรือที่เรียกว่า รัฐฉาน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของพม่า ในประเทศจีนก็มีชาวไทใหญ่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในเขตภาคตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนาน ในเมืองมาว เมืองวัน เมืองหล้า
ในประเทศอินเดีย ในรัฐอัสสัม มีชาวไทใหญ่ที่อพยพจากพม่าเข้าไปตั้งรกรากถิ่นฐานเป็นระยะเวลายาวนาน มากกว่า 600 ปี ส่วนในประเทศลาวมีชาวไทใหญ่ ที่เรียกตนเองว่าไทใหญ่เหนือ อาศัยอยู่ในภาคเหนือ ซึ่งจะเห็นได้ว่าชาวไทใหญ่ มีถิ่นอาศัยกระจาย เป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่ อินเดียพม่า จีน ลาว ซึ่งเป็นพื้นที่ชายขอบของชายแดน สำหรับในประเทศไทย ชาวไทใหญ่ได้อพยพเข้ามาทำมาหากินในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย และเชียงใหม่
จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่ชาวไทใหญ่ได้มีการติดต่อสัมพันธ์ กับกลุ่มชาติพันธ์ต่างๆ มากมายทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนผสมผสานวัฒนธรรม ซึ่งกันและกัน ทั้งวัฒนธรรมจีน อินเดีย และการอพยพลงมายังพม่าของชาวไทใหญ่ทำให้ ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพม่า หลังจากที่พม่าทำสงครามยึดเมืองไทใหญ่ต่างๆและบังคับให้ส่งบรรณาการให้ ในช่วงเลานี้เองที่พม่าได้เผยแพร่ พระพุทธศาสนาให้แก่ชาวไทใหญ่ จนเป็นศาสนาที่ชาวไทใหญ่นับถือมาจนถึงทุกวันนี้
ชาวไทใหญ่นับถือศาสนาพุทธมาเป็นเวลานาน ทำให้วิธีชีวิตและกิจวัตรประจำวันนั้นมีพุทธศาสนาเป็นเครื่องยืดเหนี่ยวจิตใจ การอพยพเข้ามาในประเทศไทยของชาวไทใหญ่ก็ยังคงเก็บรักษาศิลปวัฒนธรรมของตนเองไว้อย่างเข้มแข็ง
ปอยส่างลอง ถือได้ว่าเป็นประเพณีที่ชาวไทใหญ่สืบทอดรักษาประเพณีนี้มาอย่างยาวนาน ปอยส่างลองเป็นประเพณีในพระพุทธศาสนาในการบรรพชาสามเณรของเด็กชายในหมู่บ้านไทใหญ่ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียนของเด็ก
สางลองหรือเด็กๆ ที่จะเข้าพิธีการบวชนั้นจะมีการประดับประดาอย่างงดงาม สีสันสดใส แต่งด้วนผ้าแพร ผ้าลูกไม้ ที่มีการปักเลื่อม และลูกปัดสีต่างๆ แต่งหน้า แต่งตาด้วยสีสันจัดจ้านดูสวยงามมีสง่าราศีเหนือคนทั่วไป ในพิธีส่างลองจะใส่ถุงเท้าขาวตลอดเวลาสามวันของงาน ห้ามไม่ให้ส่างลองเหยียบพื้น ไปไหนมาไหน ต้องมีคนคอยแบก หรือขี่คอไปยังที่ต่างๆ และต้องมีคนกางร่มที่มียอดสูงประดับทองเพื่อป้องกันแสงแดด จำลองเหตุการณ์ที่เจ้าชายสิทธัตถะขี่ม้าขาวหนีออกจากวังไปออกบวช และยังมีความหมายที่แสดงถึงผลบุญอันยิ่งใหญ่ ที่พ่อแม่ พี่น้อง และครอบครัวจะได้รับจากการบวชของลูกชายในครั้งนี้
ในวันงานนอกจากจะเป็นการบวชลูกแก้ว เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาแล้วนั้น ยังเป็นโอกาสอันดีที่ชาวไปใหญ่จะได้พบปะ สอบถาม สาระทุกข์สุขดิบ ซึ่งกันและกัน ในวันนี้ชาวไทใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดที่สวยงาม ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่น สวมเสื้อสาบแบบพม่า ส่วนผู้ชายสวมกางเกงแบบเตี่ยว เสื้อคอกลม พ่อเฒ่าแม่เฒ่าสวมหมวกกุ๊บไต สะพายย่ามอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทใหญ่ ที่ดำรงรักษาไว้เป็นอย่างดี
หากโอกาสได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตในทางพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่ในงานปอยส่างลองแล้ว ท่านจะได้รับความประทับใจในความเลื่อมใสศรัทธาในบวรพุทธศาสนาและความเข้มแข็งของการรักษาวิถีการดำเนินชีวิตที่ชาวไทใหญ่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น