แนวโน้มการลงทุนในไทยสดใส หลังนักลงทุนยื่นเรื่อง ขอรับการส่งเสริมลงทุนทะลุ 300 โครงการ วงเงินเกิน 2 แสนล้านบาท

บีโอไอ ชี้แนวโน้มการลงทุนในไทยสดใส หลังนักลงทุนยื่นเรื่องขอรับการส่งเสริมลงทุนทะลุ 300 โครงการ วงเงินเกิน 2 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นอุตฯเคมีภัณฑ์ อุตฯยานยนต์ ท่องเที่ยวและแปรรูปอาหาร

น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 (ม.ค. – มี.ค. 2561) ว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 333 โครงการ เงินลงทุนรวม 203,630 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในปีนี้ โดยมูลค่าดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 28% ของเป้าหมายขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีที่ 720,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าเงินลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 100,000 ล้านบาท โดยเป็นการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ ได้แก่ อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร

ทั้งนี้นอกเหนือจากการลงทุนโครงการใหม่ และโครงการขยายของ รายเดิม ในปีนี้น่าจะเห็นทิศทางการลงทุนของภาคเอกชนในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งก็คือ มีการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแล้ว 33 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้าน

“ภาคเอกชนจำนวนมาก ยื่นขอลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยในปี 2560 มีมูลค่าสูงกว่า 17,000 ล้านบาท ทำให้บีโอไอมั่นใจว่าในปีนี้ จะมีความสนใจลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพ การผลิตสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและของประเทศไทยไปพร้อมกันด้วย”

ร่วมแสดงความคิดเห็น