ชุมชนข้างวัดล่ามช้าง ข้องใจ ปล่อยเช่าที่วัดร้างผุดโรงแรม

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย จากชาวชุมชนข้างวัดล่ามช้าง ทน.เชียงใหม่ ว่ากรณีที่มีการประ กาศปล่อยที่วัดร้าง ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้ง ร.ร.เอกชนแห่งในที่ดินเกือบ 2 ไร่ สิทธิ์เช่าหรือซื้อสิทธิ์ 30 ปี ราคา 30 – 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ที่ดินแปลงดังกล่าว มีเนื้อที่จริงประมาณ 1 ไร่ 3 งาน 54 ตร.ว. ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของวัดต้นปูน ซึ่งอยู่ชิดติดกับวัดล่ามช้าง เป็นวัดที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพญามังราย ปฐมกษัตริย์ล้านนา ขณะมาประทับที่เวียงเชียงมั่น เพื่อเตรียมสร้างพระนครใหม่

และต่อมากลายเป็นวัดเชียงมั่น วัดแห่งแรกของเวียงเชียงใหม่ โดยสถานที่ล่ามช้าง พระราชพาหนะคือที่ตั้งวัดล่ามช้าง ปัจจุบันมีพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโธ เป็นเจ้าอาวาส โดยหนึ่งในคณะกรรมการวัด อธิบายถึงการยินยอม สนับ สนุนให้ใช้ที่วัดร้าง เพื่อสร้างโรงเรียน ราวๆปี พ.ศ.2500 ด้วยเล็งเห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชาวบ้าน ย่านนี้ ทางเจ้าอาวาสจึงไม่ได้ทักท้วง พร้อมมอบเงินช่วยสร้างอาคารเรียนด้วยซ้ำ และต่อมาโรงเรียนยุบเลิกไป ตามภาวะเศรษฐกิจในช่วงปี 57-58อย่างไรก็ตาม เครือข่ายรักษ์เชียงใหม่รายหนึ่งกล่าวว่า เท่าที่ทราบจากชาวบ้าน ชาวชุมชนที่ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่มีการประกาศให้เช่าที่แปลงดังกล่าวผ่านสื่อสังคม ทราบว่าได้ขออนุญาตจากท้องถิ่น เพื่อสร้างเป็นโรงเรียนสอนการโรงแรม ยังไงก็มีการอนุมัติแบบ และเชื่อว่า น่าจะเป็นธุรกิจที่ไม่แตกต่างจาก โรงแรมที่พักมากนัก วัตถุประสงค์ตามที่ตกลง ถ้าผิดสัญญา สนง.พุทธฯสามารถยกเลิกได้ จึงน่าจะเลี่ยงบาลีไปเปิดโรงเรียนสอนการโรงแรม เพื่ออุดช่องโหว่นี้ เป็นข่าวคราวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เริ่มมาทักท้วงกันเพราะคาดว่า ปีนี้น่าจะได้ฤกษ์สร้าง หลังจากรอเรื่องสงบมาระยะด้าน จนท.สนง.พุทธฯ เชียงใหม่ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว บริเวณชุมชนรายรอบวัดล่ามช้าง พบว่า มีกิจการที่พักขึ้นอย่างหนาแน่น และบริเวณเยื้องๆวัดกำลังพัฒนาอาคาร โรงแรมสุมิตรเก่า เป็นโรงแรมใหม่ และกรณีที่ชาวชุมชนเคลื่อนไหวทักท้วง เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้มีการพัฒนาก่อสร้าง อาคารโรงแรมที่พักขึ้นมากมายเกินไป โดยสภาพบริเวณรายรอบก็มีความพลุกพล่าน มีอาคารที่พักขึ้นหนาแน่นอยู่แล้ว และคงเป็น  การยากที่ผู้บริหารท้องถิ่นจะเข้ามาดูแลแก้ไข เนื่องจากมีกิจการในลักษณะนี้เช่นกันในขณะที่กรรมการบริหารสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ เชียงใหม่ และท่องเที่ยวฯเชียงใหม่ ยอมรับว่า อัตราห้องพักในเชียงใหม่สูงจนเกินความต้องการที่แท้จริง ข้อมูลปี 58 มี 34,510 ห้อง พออีก 2 ปีเพิ่มมาเกือบ 4 หมื่นกว่าห้อง อัตราการเข้าพัก 66.34 % จากจำนวนนักท่องเที่ยว 8-9 ล้านคนต่อปี ที่เหลือคือห้องว่าง และถ้าคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเชียงใหม่ 10 ล้านคน การเข้าพักที่มีหลากหลายทั้งโฮสเทล ,บูติคโฮเต็ล โรงแรมกลายเป็นภาวะที่พัฒนาแล้วขายสิทธิ์ ขายกิจการแบบลงทุนหวังผลกำไรมากกว่า และปัญหาที่จะติดตามมาก็คงจะคล้าย การแห่ขายเกสต์เฮ้าส์ เพราะตลาดไม่คุ้มค่าการลงทุนเหมือนก่อน

ร่วมแสดงความคิดเห็น