มารู้จักดอกไม้ 6 ชนิดกินได้ ในโครงการหลวง

ดอกไม้ นอกจากจะมีหลากหลายสีสัน ให้ความสวยงามสะดุดตาแล้ว เรายังสามารถนำดอกไม้บางชนิดมาทำอาหารหรือจัดตกแต่งจาน เพื่อความสวยงามพร้อมหยิบรับประทานได้อีกด้วย จึงขอแนะนำดอกไม้ที่มีทั้งความสวยงามและความอร่อย ซึ่งเป็นที่ต้องการของร้านอาหาร ภัตตา คาร และโรงแรมต่างๆ 1.ดอกแพนซี่ ( Pansy ) หรือ ที่เรียกกันว่าดอกหน้าแมว มีรูปร่างหน้าตาคล้ายแมว กลีบของดอกแพนซี่มี 5 กลีบเกยซ้อนกัน มีทั้งดอกสีพื้นและมีแต้ม ลำต้นเล็กสูงจากพื้นดินประมาณ 4-5 นิ้ว ใบเป็นรูปหัวใจเป็น ดอกไม้ที่ทนต่ออากาศร้อนและอากาศหนาว ดอกแพนซี่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีรสเปรี้ยวนิด ๆ อุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ส่วนใหญ่นิยมนำไปประกอบในเมนูสลัด รวมกับพืชผักต่างๆ ทำให้มีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น และใช้ในการตกแต่งจาน เพื่อเพิ่มความสวยงามน่ากินมากยิ่งขึ้น 2. ดอกกุหลาบ ( Rose ) ดอกไม้สวยงามทั้งดอกเดี่ยวและเป็นช่อ กลีบดอกมีลักษณะใหญ่ มีหลากหลายสีสัน เช่น แดง ขาว เหลือง ชมพู ฯลฯ ดอกกุหลาบ มีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นตัว ขับเหงื่อ ขับสารพิษ ช่วยบำรุงหัวใจ และเป็นยาระบายอ่อนๆ กลีบดอกกุหลาบอบแห้งบางชนิดนำมาทำเป็น “ชาดอกกุหลาบ” บางชนิดนำมาทำเป็นอาหาร ส่วนที่นำมาปรุงอาหารจะใช้เป็นกลีบดอก ถ้ากลีบมีรสฝาดต้องกลบรสฝาดด้วย มะนาว เกลือ เพื่อให้หายฝาด สามารถนำไปยำกับเนื้อสัตว์ นำมาชุบแป้งทอด ใส่ในไข่เจียว หรือจะทำเป็นสลัด
3.ดอกลาเวนเดอร์ (Lavandula) เป็นพืชตระกูลเดียวกับมินต์ ทรงพุ่มขนาดเล็กไม่ผลัดใบ ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบมีสีเทาหรือสีเขียว ดอกมีสีม่วง สีชมพู สีเขียวและสีขาว ดอกเล็ก นิยมนำมาสกัดเป็นกลิ่นหอม
ส่วนของดอกสีม่วงยังนำมาปรุงอาหาร เพื่อเพิ่มความหอมของกลิ่นลาเวนเดอร์ ส่วนใหญ่นำดอกลาเวน เดอร์ตากแห้งเพื่อชงเป็นชา ดื่มเพื่อความผ่อนคลายช่วยให้นอนหลับสบาย หรือจะนำไปบดให้เป็นผงละ เอียดนำไปปรุงเป็นของหวาน หรือเบเกอรีเพิ่มความหอมของขนม
4.ดอกเนสเตอร์เตียม (Nasturtium) ดอกออกตามซอกใบ เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 4-7 ซม. มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน กลีบดอกรูปช้อน 5 กลีบ กลีบดอกมีสีขาว ครีม ชมพู เหลือง ส้ม และแดง มีกลิ่นหอมใบมีรูปร่างคล้ายใบบัวเล็กๆ ขอบใบมีคลื่นเล็กน้อย ใบมีรสเผ็ด จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Indian Cress
ดอกและใบนิยมมารับประทาน เป็นผักสดมีรสเผ็ดและให้กลิ่นหอมคล้ายกับวอเตอร์เครส ส่วนมากใช้ใส่ในสลัด เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ
5.ดอกคาโมมายล์ ดอกเล็กกลีบสีขาว ส่วนตรงกลางของดอกเป็นสีเหลือง ลักษณะคล้ายดอกเก๊กฮวย หรือ ดอกเดซี่เล็กๆ มีรสชาติหวาน ในสมัยอียิปต์ กรีกและโรมัน ใช้เป็นยามายาวนานแล้ว ในดอกคาโมมายมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ท้องอืดท้องเฟ้อ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยผ่อนคลายความเครียด
ส่วนใหญ่นิยมนำดอกคาโมมายด์มาตากแห้งชงดื่มเป็นชา วิธีปรุงดอกคาโมมายล์ นำคาโมมายล์ต้มในน้ำร้อน อัตราส่วน 10 กรัม : น้ำ 1 ลิตร ประมาณ 3-5 นาที กรองเอาคาโมมายออก ดื่มเป็นชาร้อน หรือเติมน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็ง ก็สดชื่นไปอีกแบบ
6. ดอกไชว์ พืชสมุนไพรลักษณะคล้ายต้นหอมแต่ไชว์เล็กกว่ามาก ดอกมีสีชมพูม่วงอ่อน หรือสีขาว กลิ่นคล้ายหัวหอม ใบมีลักษณะเป็นท่อนเหมือนใบหอม ใบไชว์อุดมด้วยวิตามินซี นิยมนำมาทำน้ำมันหอมระเหย มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตและกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ใบของดอกไชว์นำมาปรุงรสแต่งกลิ่นในจานสลัดได้ หรือจะนำไปปรุงอาหารที่มีความมันอย่างของทอด น้ำสลัดก็ดี ส่วนของดอกนำไปตกแต่งจานอาหารเพิ่มสีสันให้สวยงามน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ดอกไม้สีสันสวยงาม ในจานอาหาร เพิ่มเสน่ห์ให้กับมื้ออาหาร แล้วยังช่วยเติมให้สุขภาพของเราอีกด้วย

ขอขอบคุณ / ข้อมูลและภาพ มูลนิธิโครงการหลวง

ร่วมแสดงความคิดเห็น