สภ.ปางมะผ้า บุกจับคนร้ายคดีข่มขืนได้แล้ว หลังหนีไปกบดานในพื้นที่ อ.ปาย พบพัวพันยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปางมะผ้า นำกำลังบุกเข้าจับกุมคนร้าย ที่ก่อคดีข่มขืนสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ได้แล้ว หลังหนีไปกบดานในพื้นที่ อ.ปาย พบพัวพันยาเสพติดอย่างแรง

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2561 เวลา 05.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน โดย พ.ต.อ.สุรกิจ ศรีมนัส ผกก.สภ.ปางมะผ้า นำกำลังบุกเข้าจับกุมนาย สมบัติ ภมรมนัส อายุ 31 ปี หมายเลขบัตรประชาชน 3-5807-00007-80-8 ณ บ้านเลขที่ 32 หมู่ 1 ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหมายจับศาลอำเภอปาย เลขที่ 24/61 ในข้อหา บุกรุกเคหสถาน, ข่มขืน และ เสพยาเสพติด (ยาบ้า)

หลังเกิดเหตุได้เพียง 1 วัน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2561 นายสาคร รุ่งเรือง รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปเยี่ยม นางสาว อ. (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ซึ่งถูกคนร้ายข่มขืน โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 25 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา โดยทางแพทย์ผู้รักษาระบุว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศ จนอวัยวะฉีกขาด โดยก่อนหน้านั้นเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. นส.อ.ได้เดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลปางมะผ้า จากนั้นแพทย์ได้ทำการรักษาและแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนเวร สภ.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษ เหตุเกิดขึ้น ที่บ้านเลขที่ 20/2 หมู่ 1 บ้านนาปู่ป้อม ต.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

จากเหตุการณ์คนร้ายข่มขืนดังกล่าว หลังจากที่นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน (ในขณะนั้น) ปัจจุบันเป็น ผวจ.จ.เพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ และสั่งให้ปลด ผู้นำหมู่บ้านออกจากตำแหน่ง หลังทราบข้อมูลว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและสะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ กลับไม่ดำเนินการตามหน้าที่และปล่อยปละละเลย เพิกเฉยต่อการให้การช่วยเหลือเหยื่อ ทั้งที่ทราบเรื่องเป็นอย่างดี แต่มาภายหลังที่ อดีต ผวจ.แม่ฮ่องสอน ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ จ.เพชรบูรณ์แล้ว พบว่า ทางนายอำเภอปางมะผ้า กลับคืนตำแหน่งให้กับผู้นำหมู่บ้านคนดังกล่าว และก่อนหน้านั้น ทั้งที่มีหนังสือคำสั่งให้พักงาน แต่กลับปล่อยให้ปฏิบัติหน้าที่และเข้าร่วมประชุมประจำเดือนร่วมกับคนอื่นๆ ในอำเภอปางมะผ้า และเป็นที่กังขาของคนทั่วไปที่ทราบเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แพร่ระพัดไปในโลกออนไลน์ อย่างกว้างขวางและต่างแค้นเคืองที่ ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขึ้นในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เป็นเมืองน่าอยู่ติดอันดับทอปเทนมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และเร่งให้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูงของจังหวัด กลับพยายามขอร้องไม่ให้สื่อนำเสนอข่าวดังกล่าว ออกไปโดยอ้างว่า จะส่งผลกระทบต่อผู้เสียหาย ขณะที่มีข่าวว่า ผู้กระทำผิด เป็นบุตรหลานของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่เกิดเหตุ