กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

เช้าวันที่ 16 สิงหาคม 2561 นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่วัดสันปูเลย ตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อพบปะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการรองรับน้ำจากการสูบน้ำและผันน้ำออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยมี นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับที่บ้านสันปูเลย ตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการรองรับน้ำจากการสูบน้ำและผันน้ำออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จำนวน 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน 126 ราย พื้นที่การเกษตร 1,227 ไร่ โดยมีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 19 ราย ไม่ขอรับการชดเชยหรือการช่วยเหลือใดๆ จากภาคส่วนราชการ
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำในครั้งนี้ โดยเกษตรกรจะได้รับเงินเยียวยา ไร่ละ 1,100 บาท ตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย รวมถึงได้รับพันธุ์ข้าวฟรี และมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่ครอบคลุม อีกทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ได้ร่วมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปัจจัยการผลิต และสิ่งของต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกด้วย
ด้านแนวทางการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่อำเภอแม่สาย เกษตรกรได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในการทำการเกษตรและการดำเนินชีวิต โดยที่ผ่านมา ในพื้นที่ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำในการเพาะปลูก เนื่องจากอาศัยน้ำจากแม่น้ำสาย ที่ส่งผ่านระบบคลองชลประทานสายต่างๆ อาทิ คลอง RMC1 RMC2 และ RMC3 ครอบคลุมพื้นที่การเพาะปลูกกว่า 50,000 ไร่ แต่ปัจจุบัน มีสนธิสัญญาระหว่างไทย-เมียนมา เกษตรกรหวั่นจะได้รับผลกระทบจากการอาศัยน้ำจากแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกในการเพาะปลูก ทั้งนี้ อำเภอแม่สาย เตรียมเสนอพื้นที่รองรับน้ำ โดยการสร้างอ่างเก็บน้ำ ฝาย พื้นที่แก้มลิง และการขุดหลุมขนมครก ตลอดจนการสร้างอาชีพที่หลากหลายให้กับเกษตรกร ส่งเสริมการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ปลูกข้าวคุณภาพดี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของอำเภอแม่สาย เมืองวิถีเกษตร ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น