ผกก.กระบะทับ 2 ศพ ย่องมอบตัว สภ.แม่ปิง ปัดสารภาพ ขอให้การในชั้นศาล

คดีกระบะทับเด็กหญิงชาวเขาเผ่าลีซู ผู้กำกับ สอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ย่องเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.แม่ปิง ก่อนที่จะปฏิเสธเป็นคนขับไม่ให้การกับตำรวจ ชั้นสอบสวน แต่ขอให้การในชั้นศาล ส่วนรถยนต์จะนำมามอบให้ตำรวจภายหลัง ขณะที่ฝั่งญาติผู้ตายเสียความรู้สึกให้นั่งรอโรงพักทั้งคืน หากไม่คืบหน้าก็เตรียมเดินหน้าเข้ากรุงเทพฯ ร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ส่งแฟ้มภาพของเมื่อคืน)

สำหรับความความคืบหน้าคดีที่เด็กสาว 2 คนชาวเผ่าลีซู ถูกรถยนต์กระบะขับทับเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปเมื่อวันที่ 13 ส.ค.61 ส่อเค้าที่จะยืดยาวต่อไปหลังจากที่วานนี้ (17สค.61) นายนพรุจ บุญวิเศษ ลูกชายคนโต ของ พ.ต.อ.สรโชติ บุญวิเศษ ผกก.(สอบสวน)ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เจ้าของรถคันเกิดเหตุ เดินทางมาพบกับญาติของผู้เสียชีวิต ที่ทาง พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 ได้นัดให้มาพบกัน แต่ยังไม่ใช่การเข้ามอบตัวหรือพาคนขับมามอบตัว แต่เป็นเพียงตัวแทนของครอบครัว ที่จะมาขอเจรจาในการรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถูกทางฝั่งญาติของผู้ตายปฏิเสธที่จะเจรจา เนื่องจากต้องการให้นำตัวคนขับมามอบตัวกับทางตำรวจเสียก่อน หลังจากนั้นในช่วงค่ำก็ได้นัดไว้ว่าเวลา 19.00 น.จะพาคนที่ขับรถคันเกิดเหตุมามอบตัว และพบกับญาติของผู้ตาย

โดยทางฝั่งญาติของผู้ตาย ทั้งนายเจริญ สินลี้ ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย พร้อมนางจิตตานันท์ เลาลี อายุ 39 ปี ป้าของเด็กสาวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิต และญาติ ก็มารอที่ สภ.แม่ปิง จนกระทั่งดึกก็ไม่มีการติดต่อเข้ามามอบตัว อย่างที่นัดไว้ทำให้ฝั่งของผู้ตายเสียความรู้สึกอย่างมาก ที่หลอกให้มานั่งรอ และฝั่งตรงข้ามไม่มีความจริงใจในความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้เดินทางกลับพร้อมกับเผยว่าหากไม่มีความคืบหน้าของคดีอีก ก็พร้อมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ซึ่งต้องรอปรึกษากับทางญาติเพื่อหาแนวทางกันอีกครั้ง

และล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. วันนี้ (18 ส.ค.61) พ.ต.อ.สรโชติ บุญวิเศษ ผู้ผกก.สอบสวน ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เจ้าของรถคันเกิดเหตุ อาศัยช่วงที่ไม่มีสื่อมวลชนติดตามทำข่าว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.แม่ปิง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่จะปฏิเสธให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนรถยนต์ของกลางได้แจ้งกับทางตำรวจว่าจะนำมาส่งมอบให้กับตำรวจภายหลัง แต่ยังไม่ระบุวันเวลา ก่อนที่จะเดินทางออกกลับไปทันที