จับ”ไอ้เบียร์สันทราย” กำเริบขายยาบ้าผ่านไลน์ สุดท้ายไม่รอด เจอรวบยัดตารางพร้อมยาบ้า เกือบ 7 หมื่นเม็ด

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 61 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 พร้อมกับพวก ร่วมกันจับกุม นายณัฐพล หรือเบียร์ นามวิชัย อายุ 26 ปี ที่อยู่ 33/1 หมู่ที่ 2 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย”จับกุมได้ ภายในห้องพักเลขที่ 304 บ้านสบายอาเขตเชียงใหม่ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อเนื่อง ถึงบ้านเลขที่ 33 ถนนราชดำเนิน ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ก่อนการจับกุม จนท.ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนออกหาข่าวในเขตพื้นที่ ที่สายลับแจ้งว่ามี นายเบียร์ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง มีพฤติการณ์เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติด(ยาบ้า)ในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ต่อมาจึงวางแผนเพื่อจับกุม โดยส่งสายลับไปเจรจาซื้อขาย โดยนายเบียร์ ได้ชวนสายลับไปเที่ยวและร่วมหลับนอนกัน หลังจากนั้น จนท.จึงวางแผนเพื่อจะจับกุม โดยให้สายลับเข้าไปพบ ที่ห้องพักเลขที่ 304 โรงแรมบ้านสบายอาเขตเชียงใหม่ 

จากนั้น จนท.ตำรวจชุดจับกุม จึงได้วางกำลังซุ่มอยู่โดยรอบบริเวณโรงแรม จนได้รับสัญญาณจากสาย ลับ โดยวิธีการส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ตามที่นัดหมายกัน จึงออกจากที่ซุ่ม แล้วเข้า ไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว พบ นายเบียร์ เดินมาเปิดประตู ตำรวจจึงบุกจู่โจมตรวจค้น เบื้องต้นพบยาบ้า ประมาณ 5,800 เม็ด วางอยู่ใกล้กับอ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำ จึงควบคุมตัวเอาไว้
พร้อมกับสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหารับอีกว่า ยาบ้าอีกส่วนหนึ่งได้ซุกซ่อน ที่บ้านเลขที่ 33 ถนนราช ดำเนิน ต.ศรีภูมิ พบซุกอยู่บนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ รวมทั้งหมดประมาณ 38,000 เม็ด นอกจากนี้ยังได้ตามไปยึดยาบ้าเพิ่มบริเวณพงหญ้าฝั่ง ตรงข้ามกับทางเข้าโรงเรียนวชิรวิทย์เชียงใหม่ ต.หนองป่าครั่ง จำนวน 26,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายสีน้ำตาล

นอกจากนี้ นายณัฐพล หรือเบียร์ฯ ยังรับว่าตนเองพึ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมาซึ่งขณะที่อยู่ในเรือนจำตนเอง ได้รู้จักกับนายจ่อย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง และทำการติดต่อเพื่อนำยาบ้าทั้งหมดมาจำหน่ายทางแอพพลิเคชั่นไลน์(LINE) และพึ่งกระทำความผิดเป็นครั้งแรกหลังจากพ้นโทษออกมา หลังจากนั้นจึงควบคุมตัวและของกลางส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป