หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยืนยันไม่อนุญาตให้หนุ่มรักแท้ โปรยอัฐิภรรยาบนยอดดอย

หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยืนยันไม่อนุญาตให้หนุ่มรักแท้ โปรยอัฐิภรรยาบนยอดดอย เพราะเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่พร้อมดูแล อำนวยความสะดวกทุกอย่าง
นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าว นายศักดิ์ชัย สุพันธมาตย์ อายุ 39 ปี เป็นชาว จ.อุดรธานี ซึ่งเดินเท้ามาจาก จ.ตรัง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เพื่อนำอัฐิภรรยาที่เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ไปทำบุญและโปรยอัฐิบนยอดดอยอินทนนท์ นั้นทางด้านอุทยานฯ ได้อนุญาตให้บุคคลดังกล่าว สามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่เรื่องที่ นายศักดิ์ชัย จะนำอัฐิของภรรยาไปโปรยนั้นทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าวได้
เนื่องจากว่าบนพื้นที่ยอดดอยอินทนนท์นั้น ถือได้ว่าเป็นยอดดอยที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีพระสถูปของพระ เจ้าอินทวิชยานนท์ หรือ “กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์” อีกทั้งยังมี พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุคู่พระบารมี รัชกาลที่ 9 และพระราชินี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ และชาวไทยให้ความเคารพ ดังนั้นการกระทำในลักษณะดังกล่าว จึงเกรงว่าจะเป็นการลบหลู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับบนพื้นที่ดอยอินทนนท์ ยังเป็นแหล่งต้นน้ำ และแหล่งธรรมชาติ ซึ่งหากมีการอนุญาตให้มีการกระทำการดังกล่าวได้แล้วนั้น ก็อาจจะมีคนอื่นๆ มาขออนุญาตกระทำในลักษณะดังกล่าวอีก
นอกจากนี้ในส่วนของสัตว์เลี้ยงของ นายศักดิ์ชัย ที่เดินทางมาด้วยซึ่งทราบว่าเป็นสุนัข 2 ตัวและแมวอีก 1 ตัวนั้น ทางอุทยานฯ ก็ไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตอุทยานฯ เช่นกัน เนื่องจากมีกฎหมายข้อบังคับของอุทยานฯ ที่แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามานั้น อาจจะก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ ปนเปื้อน หรือโรคระบาดกับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ แต่ทางอุทยานฯ จะดำเนินการรับฝากดูแลสัตว์เลี้ยงของ นายศักดิ์ชัย ที่บริเวณด่านตรวจจนกว่าเจ้าตัวจะกลับมา ซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าและให้อาหาร รวมไปถึงการดูแลเป็นอย่างดี และขณะเดียวกัน ในส่วนของรถเข็นที่ นายศักดิ์ชัย นำมาเพื่อใช้ขนสัมภาระนั้นทางอุทยานฯ จะขอความร่วมมือกับทางเจ้าตัวเพื่อไม่ให้นำขึ้นไป เนื่องจากพื้นที่ดอยอินทนนท์นั้นมีความสูงชัน ประกอบกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล จึงเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายกับ นายศักดิ์ชัย ได้ จึงอยากให้ทาง นายศักดิ์ชัย นำรถเข็นฝากไว้กับทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ที่บริเวณด่านตรวจ ซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่ดูแลให้เช่นกัน โดยตนจะรับอาสาเป็นผู้ดูแล นำเที่ยว และอำนวยความสะดวกให้กับ นายศักดิ์ชัย อย่างเต็มที่ อีกทั้งจะเป็นผู้ออกเงินค่าเข้า ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างที่ นายศักดิ์ชัย อยู่ในพื้นที่ด้วย โดยเต็มใจให้ นายศักดิ์ชัย สามารถนำอัฐิของภรรยา ขึ้นไปด้วยได้ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับภรรยา ที่จะพามาเที่ยวบนดอยอินทนนท์ เพียงแต่จะไม่ให้มีการโปรยอัฐิของภรรยาเท่านั้นหน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของเรื่องที่ไม่อนุญาตดังกล่าวนั้น อาจจะมีกระแสดราม่าเกิดขึ้นกับผู้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และเรื่องราวของ นายศักดิ์ชัย แต่ตนก็ไม่ได้มีความกังวลใจมากนัก เนื่องจากข้อห้ามต่างๆ นั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของอุทยาน ซึ่งทางอุทยานฯ จะได้ทำการชี้แจงให้ นายศักดิ์ชัย เข้าใจ โดยจากการติตามรายงานล่าสุด ทราบว่าขณะนี้ นายศักดิ์ชัย ได้เดินทางมาถึงที่บริเวณปากทางของอุทยานฯ แล้ว ซึ่งห่างจากด่านตรวจจุดแรก ประมาณ 9 กม.อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงบริเวณด่านตรวจที่ 1 ทางตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ก็พร้อมที่จะให้การต้อนรับอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะให้การดูแลอย่างทั่วถึง จนกว่าเจ้าตัวจะเดินทางกลับ และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับภรรยาจนสำเร็จ

ร่วมแสดงความคิดเห็น