คำถามยอดฮิตมนุษย์เงินเดือน “จ่ายประกันสังคมแล้ว ใช้อะไรได้บ้าง?”

คำถามยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนของเมืองไทย คือเวลาจ่ายประกันสังคมในแต่ละเดือน สุด ท้ายแล้วเหล่ามนุยย์เงินเดือนทั้งหลาย จะได้อะไรตอบแทนมาบ้าง
วันนี้จะมาไขข้อข้องใจในเรื่องฮอตฮิต ที่มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ว่าทำไมต้องจ่ายประกันสังคม จ่ายก็ไม่ได้ใช้ แล้วทำไมแต่ละคนจ่ายไม่เท่ากัน แบบนี้เอาเปรียบกันรึเปล่า !!! การประ กันสังคม คือการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิต ในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้ โดยจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม และรับผิดชอบความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

มนุษย์เงินเดือนที่ต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคม บริษัทจะหักจากเงินเดือน 5% เท่าๆ กันทุกเดือน และส่งให้กองทุนประกันสังคม โดยการหักเงินนั้นจะคิดจากฐานเงินเดือนที่ได้รับ เช่น หากได้รับเงินเดือน 10,000 บาท ก็จะถูกหัก 500 บาท สำหรับคนที่ได้เงินเดือนเท่ากับ หรือมากกว่า 15,000 บาท จะหักสูงสุดไม่เกิน 750 บาท และเงิน 5% นี้ ถูกหักไปทำอะไรบ้าง ?

สมมุติจากการส่งสูงสุด 750 บาท โดยเปอร์เซนต์เหล่านี้จะคิดจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท
0.5% = 75 บาท ประกันการว่างงาน
3% = 450 บาท ประกันชราภาพ
1.5% = 225 บาท ประกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ซึ่งเงินประกันชราภาพ บริษัทจะจ่ายสมทบให้เราเท่ากับจำนวนที่เราจ่ายด้วย อย่างในตัวอย่างที่เราจ่าย 450 บาท บริษัทก็จะสมทบให้อีก 450 บาท ประกันสังคมจะหักไว้เป็นเงินออม และเราก็จะได้รับเมื่ออายุครบ 55 ปี แต่จำนวนเงินที่ได้รับ จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายของเรา โดยมีเงื่อนไข และตัวอย่างการคำนวน ดังนี้
1.กรณีจ่ายประกันสังคมไม่ครบ 1 ปี เช่นจ่ายเพียง 10 เดือน เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้เงินออม จำนวน 450×10 เท่ากับ 4,500 บาทเท่านั้น แต่จะไม่ได้เงินที่บริษัทสมทบให้ทุกเดือน ซึ่งเงินที่ได้รับนี้เรียกว่า “บำเหน็จชราภาพ”
2.กรณีจ่ายประกันสังคมครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้เงินที่เรียกว่า “บำเหน็จชรา ภาพ” เช่นกัน แต่จะได้ในส่วนที่บริษัทสมทบให้ด้วย เช่น จ่ายเงินประกันสังคมมา 10 ปี ก็จะได้เงินออมเดือนละ 450 บาทเท่ากับ 450×120 เดือนเท่ากับ 54,000 บาท รวมกับที่บริษัทสมทบให้ 10 ปี เท่ากับ 450×120 เดือน ก็จะได้อีก 54,000 บาท เงินที่ได้รับทั้งหมดก็คือ 108,000 บาท
3.กรณีจ่ายประกันสังคมครบ 15 ปีพอดีเป๊ะ เราจะไม่ได้รับเงินก้อน ‘บำเหน็จชราภาพ’ เหมือน 2 กรณีแรก แต่จะได้รับเงินเป็น ‘บำนาญชราภาพ‘ ซึ่งจะได้รับทุกเดือน โดยคำนวณจากจำนวนเงินเดือนที่เราได้รับ เช่น เงินเดือนเฉลี่ย 5 ปี หรือ 60 เดือนย้อนหลังของเรา อยู่ที่ 20,000 บาท เราจะได้รับเงินบำนาญเป็น 20% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนย้อนหลัง เท่ากับ 4,000 บาท จนเราเสียชีวิต พูดง่ายๆ ว่ามีเงินเดือนตอนเกษียณนั่นเอง
4.กรณีจ่ายประกันสังคมเกิน 15 ปีขึ้นไป เราจะได้รับเงินบำนาญชราภาพ เช่นเดียวกับกรณีจ่ายครบ 15 ปีเป๊ะ คือ 20% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนย้อนหลัง แต่จะได้เงินพิเศษเพิ่มอีก 1.5% ของเงินเดือนเฉลี่ยที่เกิน 15 ปีเป็นต้นไป เช่น เงินเดือนเฉลี่ย 5 ปี หรือ 60 เดือนย้อนหลังของเราอยู่ที่ 20,000 บาท เราจะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 4,000 บาทเหมือนกัน แต่สมมุติว่าเราส่งประกันสังคมมาทั้งหมด 20 ปีซึ่งเกินมา 5 ปี ก็จะได้เงินพิเศษอีก 1.5% ทุกๆ 1 ปี ของเงินเดือนเฉลี่ยที่เกินมา
วิธีคิด
เงินเดือนเฉลี่ย 20,000 * 1.5% = 300 บาท
ส่งเกินมา 5 ปี เท่ากับ 300 บาท* 5 = 1,500 บาท
จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 4,000 + 1,500 = 5,500 บาท ไปจนเสียชีวิต
ส่วนกรณีที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพไม่ถึง 5 ปีแล้วเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 10 เดือนของเงินบำนาญชราภาพ สมมุติเงินบำนาญชราภาพเดือนสุดท้ายคือ 5,500 บาท คูณด้วย 10 เดือน ก็จะได้เท่ากับ 55,000 บาทเมื่อเสียชีวิต
ดังนั้น เงินประกันสังคมที่จ่ายทุกๆ เดือน จึงไม่ได้ใช้แค่รักษาพยาบาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเงินที่จะช่วยดูแลเราในยามที่ว่างงาน หรือตอนเกษียณอายุงานอีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมใช้สิทธิและรักษาสิทธิประกันสังคมของเราด้วยนะครับ

ร่วมแสดงความคิดเห็น