“THE HERO” มทบ.33 สนธิกำลังอุทยานดอยสุเทพ-ปุย นำ 11 นร.แลกเปลี่ยนอเมริกันออกมา เหตุหลงป่าห้วยตึงเฒ่า

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2561 เวลา 00.10 น. พ.อ.สุปกรณ์ เรือนสติ ผจก.สนง.ส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำกำลัง จนท.ทหารจาก มทบ.33, จนท.กู้ภัย และ จนท.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย เข้าไปทำการช่วยเหลือนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน 11 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 10 อายุระหว่าง 18 – 22 ปี เดินทางเข้าไปวิ่งเทรล หรือ วิ่งแบบผจญภัยบนพื้นที่ธรรมชาติป่าภูเขาเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ออกจากพื้นที่ป่า บริเวณหน้าผานก – กก เหนือน้ำตกตาดหมอก ด้านหลังอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าฯ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
การกู้ภัยครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากได้รับการประสานจากตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ว่ามีนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน เข้าไปเดินป่าตั้งแต่เวลา 14.00 น. เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2561 โดยนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน กลุ่มดังกล่าว ได้ว่าจ้างรถสี่ล้อแดงจาก มช. มาส่งที่ใกล้ลานพระพุทธรูป ภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าฯ จากนั้น เริ่มเดินป่าเพื่อไปยังน้ำตกตาดหมอก แต่เดินหลงทางจนหาทางออกไม่เจอ จนเข้าช่วงค่ำ โชคดีในพื้นที่มีสัญญาณโทรศัพท์ จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจาก จนท.เมื่อเวลา 19.00 น. โดยทาง จนท.ได้เดินทางไปช่วยเหลือตามแผนปฏิบัติการช่วยเหลือค้นหา ทั้งทางบก ทางน้ำ ป่าเขา และน้ำตก ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าฯ จัดทำไว้และฝึกซ้อมแผนเป็นประจำ จนสามารถนำตัวออกมาได้เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น.
จนท.ระบุว่า การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอันตราย เพราะจุดที่นักศึกษาแลกเปลี่ยน เดินหลงเข้าไปคือบริเวณผานก – กก สูงกว่า 80 เมตร จนท.จึงแจ้งให้ทั้งหมดอยู่กับที่ อย่าเดินเคลื่อนที่ไปจุดอื่น เพราะอาจผลักตกหน้าผาได้
จากนั้น จนท.จึงนำรถกระบะโฟล์วีล เดินทางขึ้นไปจากด่านป่าไม้ 1 จนถึงจุดที่ใกล้กับที่นักเรียนทั้งหมดอยู่ประมาณ 4 กม. และต้องเดินเท้าเข้าไปอีกกว่า 800 เมตร จนพบนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด ก่อนนำตัวขึ้นรถลงมา
ทันที ที่พบ จนท.ทุกคนต่างตะโกน ไชโยโห่ร้อง ด้วยความดีใจ และร้องไห้ออกมา โผเข้ากอด จนท.เพื่อแสดงความขอบคุณ สอบถามตัวแทนนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวอเมริกัน บอกว่า ทั้งหมดเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของคณะวิทยาศาสตร์ มช. และเดินทางมาถึง จ.เชียงใหม่ ได้ 6 สัปดาห์ รู้สึกดีใจ และขอบคุณจนท.ไทยทุกคน ที่ให้การช่วยเหลือ ออกมาอย่างปลอดภัย
ด้าน พ.อ.สุปกรณ์ บอกว่า สนง.ส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าฯ มีแผนให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบภัย ทั้งทางบก ทางน้ำ และในพื้นที่ป่า หลังได้รับการประสานจากตำรวจท่องเที่ยว และขอเบอร์โทรศัพท์ ของนักเรียนแลกเปลี่ยน เช็คพิกัดที่ทั้งหมดอยู่จาก จีพีเอส (GPS) จนทราบจุดที่ชัดเจน จึงนำกำลังเข้าไปช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ตามปกติห้วยตึงเฒ่าฯ จะปิดให้บริการในเวลา 18.00 น. โดยจะมี จนท.ตรวจสอบว่า นักท่องเที่ยวออกไปจากพื้นที่หมดแล้วหรือไม่ และนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวเดินป่า ด้านหลังห้วยตึงเฒ่าฯจะต้องขออนุญาต จนท.ก่อน เพื่อจัดผู้นำทางให้ ซึ่งกรณีของนักเรียนแลกเปลี่ยนกลุ่มนี้ ได้ว่าจ้างรถสี่ล้อแดง ให้มาส่งและเดินเข้าป่าไปด้วยตัวเอง ทำให้ จนท.ไม่ทราบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินเข้าป่าไป หลังจากนี้ จะเพิ่มความระมัดระวัง ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียน และขออนุญาตทุกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น